อนุโมทนาต่อผู้มีศรัทธา
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
อนุโมทนาต่อผู้มีศรัทธา
หลายคนที่ติดตามอ่านธรรมะในลานธรรมอาจเห็นความเปลี่ยนแปลง ที่ตอนนี้มีคติธรรมมาแทนลานธรรมในแต่ละวัน
เจตนาส่วนหนึ่งก็คือ ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศหลังจากที่อ่านเรื่องหนักๆแบบบรรยายธรรมมาเป็นเวลาถึง ๑๗ เดือน ก็อยากให้มีอะไรแปลกใหม่ โดยเขียนข้อความสั้นๆส่งไปให้เว็บมาสเตอร์ออกแบบข้อความและพื้นหลังตามความชอบใจ ซึ่งเขาก็ทำได้อย่างสวยงามและถูกใจอย่างคาดไม่ถึง จึงขอถือเอาคติธรรมเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในการเป็นของขวัญแก่ทุกคนที่ติดตามอ่านธรรมะด้วยความเลื่อมใสศรัทธาตลอดมา
ในสมัยเรียนหนังสืออยู่ชั้น ม.ศ. ๑ เคยอ่านนวนิยายอิงธรรมะเรื่อง “ลีลาวดี”ของธรรมโฆษณ์ จนจบบริบูรณ์ครบทั้งสามเล่ม อ่านแล้วก็มีคำถามในใจอยู่คนเดียวว่า เหตุใดลีลาวดีจึงบรรลุธรรมก่อนเรวัตตะ พระเรวัตตะท่านบวชเป็นพระแท้ๆ แต่เหตุใดกลับก้าวข้ามขึ้นสู่ฝั่งแห่งพระนิพพานยังไม่ได้ ยังเป็นเพียงพระปุถุชนผู้ปฏิบัติดีอยู่เท่านั้น
จะไปถามครูหรือไปถามเพื่อน ดูไปแล้วครูและเพื่อนก็คงตอบคำถามดังกล่าวไม่ได้แต่อย่างใด จึงเก็บความสงสัยไว้เรื่อยมา จนกระทั่งได้ออกอุปสมบทกลายเป็นพระธุดงค์ในป่า ต่อมาความสงสัยเหล่านั้นจึงหมดไป
คุณสมบัติสำคัญข้อหนึ่งของผู้ที่จะบรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคล คือต้องเป็นคนจริง ต้องมีอุปนิสัยกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ทำอะไรก็ทำจริง รักใครก็รักจริง นี้คือลักษณะของจิตที่เคยบำเพ็ญสมาธิไว้ข้ามภพข้ามชาติ เพียงแต่ในชาติปัจจุบันอาจยังไม่พบกับครูบาอาจารย์
ชีวิตพระเรวัตตะดำเนินไปด้วยความลังเลตลอด ใจของท่านจึงอยู่ในลักษณะก้ำกึ่งครึ่งๆกลางๆ ไม่เป็นตัวของตัวเอง ต้องพยายามกดข่มอารมณ์ของตนไว้ ท่านได้ชื่อว่าเป็นคนดี แต่หัวใจก็อยู่ในสภาพขาดความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยว เนื่องจากต้องคอยหักห้ามจิตใจไม่ให้มีความรักต่อลีลาวดี สภาพเหตุการณ์เช่นนี้จึงทำให้จิตใจของท่านต้องลังเลและอ่อนแอเรื่อยมา
ส่วนลีลาวดี ใจของเธอเป็นคนละอย่างกับพระเรวัตตะ คุณสมบัติอันสำคัญคือเธอเป็นธิดาเศรษฐีผู้ไม่มีปมด้อยในชีวิต ใจของเธอมั่นคงเด็ดเดี่ยวไม่มีความรวนเร อีกทั้งการที่เธอลดตัวลงมารักลูกจ้างอย่างเรวัตตะได้อย่างสนิทใจ แสดงให้เห็นว่าพื้นเดิมของจิตมีความสูงส่งเป็นธรรมชาติ จึงไม่ได้ตัดสินคุณค่าของคนที่ความร่ำรวย ความมีเกียรติ หรือความมีฐานะแต่อย่างใด เธอมองคนที่คุณธรรมและความมีน้ำใจ อันเป็นคุณสมบัติสำคัญที่จะยกจิตก้าวขึ้นสู่ภูมิแห่งความเป็นอริยะได้ เมื่อสดับพระธรรมเทศนาของพระพุทธองค์ในเวลาต่อมา
ความรักของลีลาวดีเป็นความรักที่ปราศจากความลังเล เป็นรักที่ทุ่มเทอย่างเต็มที่อย่างไร้เงื่อนไข ไม่คำนึงถึงเกียรติและศักดิ์ศรีของตัวเอง จัดว่าเป็นความรักที่ประกอบด้วยความหลงตามวิสัยของปุถุชนที่เป็นคนรักเดียวใจเดียว ต่อมาความรักนั้นค่อยๆพัฒนาขึ้นตามลำดับจนเข้าถึงความรักแห่งพุทธะในที่สุด
แม้เกิดมาชาติใหม่เป็น “รัตตปาณี” ความรักของเธอก็ยังมั่นคงและซื่อสัตย์ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อระลึกชาติได้ และความทุกข์อันมากมายอันเกิดจากความรักที่ไม่สมหวังไม่ได้ครองคู่แบบชีวิตของคนทั่วไปทำให้เห็นทุกข์โทษแห่งอุปาทานความยึดมั่นถือมั่น จึงบรรลุพระนิพพานปล่อยวางทุกสรรพสิ่งคืนแก่โลกเมื่อส่งจิตไปตามกระแสธรรมของพระบรมศาสดา
ความรักเช่นลีลาวดี เรียกได้ว่าเป็นความรักของผู้ที่เกิดมาเพื่อมีความรักเป็นชาติสุดท้าย จึงเป็นความรักที่รุนแรงจริงจังและแสดงออกอย่างเต็มที่ เป็นความรักของคนมีบารมี จึงไม่อาจเอาความรักของปุถุชนคนทั่วไปไปเปรียบเทียบหรือวัดคุณค่าของความรักประเภทนี้ได้
คนธรรมดาย่อมตัดสินความรักแบบนี้ว่าช่างเป็นความรักที่สุดแสนจะงมงาย แต่สำหรับบุคคลที่เกิดมาเพื่อชดใช้ความรักในวัฏฏสงสารเป็นครั้งสุดท้าย ย่อมอยู่เหนือคำบรรยายที่จะใช้ภาษารักในทางโลกมาตัดสิน เพราะเป็นความรักเพื่อที่จะเดินไปสู่ความปล่อยวางในที่สุด
ความรักของปุถุชนย่อมเต็มไปด้วยความยึดมั่นถือมั่น ความรักของพระโสดาบันย่อมมีลักษณะที่งดงามและไม่ตกเป็นทาสความเสน่หา ความรักของพระสกิทาคามีแทบไม่ต้องอาศัยร่างกาย มีแต่ความหวังดีและความเมตตา ส่วนพระอนาคามี หัวใจของท่านอยู่เหนือความรักแบบทางโลกโดยสิ้นเชิง จะมีก็แต่ความเมตตาเกื้อกูลเสมอกันไม่มีคำว่าหญิงหรือชาย
ท่านพระเรวัตตะหัวใจของท่านมักมีแต่ความลังเลสงสัยและมีปมด้อย ใจจึงขาดความเป็นอิสระและขาดความเป็นตัวของตัวเอง ท่านจึงต้องบรรลุธรรมภายหลังลีลาวดี เมื่อจิตของท่านก้าวข้ามวิจิกิจฉานิวรณ์คือความลังเลสงสัยที่ขวางกั้นจิตของท่านมานานแสนนาน
ลีลาวดีผู้มีจิตใจเด็ดเดี่ยวตั้งแต่ต้นจนข้ามภพข้ามชาติ เมื่อได้รักและยึดมั่นถือมั่นอย่างถึงที่สุด ต่อมาได้อานิสงส์แห่งการออกบวชช่วยประคับประคองจิตใจ เมื่อได้ฟังธรรมจากพระบรมศาสดา สุดท้ายจิตใจก็ปล่อยวางจางคลาย กลายเป็นผู้มีหัวใจลอยเด่นอยู่เหนือความรักได้ เมื่อบารมีธรรมเต็มเปี่ยมแล้วก็กลายเป็นพระอริยบุคคลชั้นสูงไม่ต้องทุกข์โศกอีกต่อไป
ชีวิตของพระเรวัตตะคือตัวอย่างชีวิตของคนดีแบบกัลยาณปุถุชน เป็นคนดีเพราะอาศัยการกดข่มและพยายามรักษาตน จิตจึงขาดความเป็นอิสระและไม่เป็นธรรมชาติ ส่วนชีวิตของลีลาวดีคือตัวอย่างของชีวิตที่เป็นตัวของตัวเองและมีชีวิตอยู่กับความจริง จึงมีโอกาสที่จิตจะน้อมไปสู่ความหลุดพ้นเพราะมีความไร้เดียงสาและมีความเป็นธรรมชาติอย่างทรงพลัง
เคยกล่าวไว้ในลานธรรมแห่งนี้มาก่อนบ้างแล้วว่า การเป็นคนดีเพื่อเอาใจสังคมหรือเพื่อให้คนมองว่าเราเป็นคนดีนั้น เป็นคนดีในระดับที่ยึดมั่นในความดี ส่วนเส้นทางแห่งอริยะคือการเลยพ้นไปจากการเป็นคนดีแบบนั้น เพราะเป็นเส้นทางแห่งการที่ดวงจิตอยู่เหนือดีเหนือชั่ว จึงมีความอิสระและโปร่งเบา เพราะไม่ต้องแบกความดีและความคาดหวังของใครอีก
ศีลของปุถุชนนั้นต้องคอยรักษาและคอยนับเป็นข้อๆ แต่ศีลของพระโสดาบันที่เป็นอริยกันตศีลนั้น แท้จริงแล้วก็คือดวงจิตที่มีความเมตตากรุณาที่มีต่อสัตว์โลกนั่นเองเป็นตัวศีล
การสมาทานศีลนั้นย่อมมีความจำเป็นสำหรับปุถุชน เพราะมักมีศีลขาดด่างพร้อยและต้องคอยนับศีลเป็นข้อๆเรื่อยไป แต่การรักษาศีลเช่นนั้นย่อมไม่มีในหัวใจของพระอริยบุคคล เพราะตัวท่านเป็นศีลอยู่แล้วด้วยพลังแห่งเมตตาที่ไม่มีจิตคิดเบียดเบียนสรรพสัตว์ทั้งปวง แต่ท่านอาจสมาทานไปตามสังคมคนหมู่ใหญ่ เพื่อรักษาธรรมเนียมอันดีงามไว้และเป็นตัวอย่างแก่คนรุ่นหลัง เพื่อให้เขาได้อาศัยเป็นบันไดก้าวขึ้นสู่อริยมรรคในภายหน้าสืบต่อไป
ขออนุโมทนาต่อทุกคนที่ใฝ่ใจในธรรมะ การที่ต้องสมัครสมาชิกเสียก่อนจึงจะเข้ามาอ่านลานธรรมได้ ก็เพื่อกลั่นกรองเอาเฉพาะคนที่ตั้งใจจริงมีความเคารพและมีความเลื่อมใสศรัทธาเป็นหลักใหญ่ เปรียบเสมือนการไปวัดของคนโบราณ ที่ต้องแต่งกายให้เหมาะสมและมีดอกไม้ธูปเทียนไปวัดเพื่อแสดงออกถึงความเคารพและความตั้งใจ หลังจากนั้นท่านจึงให้อาราธนาธรรมและแสดงธรรมบนธรรมาสน์ อันแสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์และความสูงส่งของพระธรรมและของพระศาสนา
ขอจงดำรงศรัทธาของเราและทำใจให้อยู่กับความสูงส่งไว้เสมอ ไม่ว่าชีวิตในวันนี้จะทุกข์ยาก หรือระหกระเหินสักเพียงใด พลังแห่งศรัทธาจะค้ำจุนชีวิตของเราไว้และเข้าถึงธรรมในชาตินี้อย่างแน่นอน
ขอความศักดิ์สิทธิ์แห่งพระธรรมจงคุ้มครองทุกคนตลอดไปด้วยเทอญ
คุรุอตีศะ
๑ ธันวาคม ๒๕๕๗