กำลังใจแก่ผู้ก้าวเดิน

กำลังใจแก่ผู้ก้าวเดิน

 

 

                ฉันขอเป็นคนหนึ่งคอยปลอบเธอยามหมองเศร้า  ขอให้เธอจงก้าวไปข้างหน้าอย่าหวั่นไหว  หากแม้นว่าในโลกนี้เธอรู้สึกว่าไม่เหลือใคร จงรู้ว่ายังมีใครคนหนึ่งที่เฝ้ามอง

 

                 ฉันอาจไม่ใช่คนที่มีความดีในสายตาของใครๆเท่าใดนัก  แต่หัวใจของฉันมีความรักอย่างบริสุทธิ์ใจมอบให้เธอตลอดมาสม่ำเสมอ

 

                  ในท่ามกลางความฉ้อฉลและเล่ห์เหลี่ยมของมนุษย์ในยุคนี้  แต่ฉันก็ยังมีความจริงใจมอบให้เธอ  แม้ไม่มีดอกกุหลาบอันงามพร้อมในมือฉันอันเลิศเลอ  แต่ดอกหญ้าอันแข็งแกร่งก็มีความรักและจริงใจสม่ำเสมอไม่จืดจาง

 

                   ฉันขอเป็นผู้ชายที่มอบความรักแก่ภรรยาที่แสนดีคนนี้  แม้อาจไม่ถึงขั้นมีเพชรเม็ดงามน้ำดีมอบให้เธอประดับแหวน  ฉันขอเอาความรักอันยิ่งใหญ่และความซื่อสัตย์มอบให้แก่เธอแทน  เป็นดุจเพชรประดับแหวนที่ส่องแสงแวววับงามจับตา

 

                  ฉันขอเป็นผู้หญิงที่ยอมมอบทุกสิ่งแก่ผู้ชายที่ฉันรัก  ขอเคียงข้างยามที่เธอฟันฝ่าอุปสรรคมุ่งสู่อุดมการณ์ตามที่หวัง  แม้ฉันอาจไม่สวยเหมือนดาราและไม่ได้มีความร่ำรวยช่วยหนุนส่งเพิ่มพลัง  แต่หัวใจอันเต็มเปี่ยมด้วยความรักและความหวังจักหนุนส่งเธอจนวันตาย

 

                 ขอเพียงฉันเป็นบุคคลที่ช่วยคนยามท้อแท้  แม้โลกใบนี้จักหมุนเปลี่ยนและผันแปรสักเพียงไหน   แต่ความรักความหวังดีต่อมวลมนุษย์ไม่เคยเปลี่ยนแต่อย่างใด  ขอให้ทุกคนจงมีกำลังใจแล้วก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคง

 

                 หากถามว่าฉันต้องการอะไรตอบแทนบ้าง  ฉันขอเพียงใจของเธออย่าอ้างว้างและหนีห่างจากความดีงามเพียงเท่านั้น   หากชีวิตของเธอตกอยู่ในเหวลึกเพราะพลาดผิดมาหลายวัน  ขอเพียงให้หัวใจของเธอนั้น จงสำนึกแล้วกล้าหาญก้าวขึ้นจากก้นเหวสู่แสงสว่างที่ข้างบน

 

                หากเธอคือคนหนึ่งที่พลาดหวังเรื่องความรัก ขอให้เธอจงหยุดยืนเพื่อตั้งหลักให้สติกลับคืนมาเสียก่อน    อย่าเอาชีวิตอันมีค่าของเธอไปฝากไว้กับหญิงหรือชายผู้มีใจไม่แน่นอน  จงตั้งสติอยู่เงียบๆเสียก่อน  แล้วแสงสว่างแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ตามที่เราปรารถนา จะได้สาดส่องเข้ามาเพื่อรับขวัญหัวใจอันสัตย์ซื่อของเธอ

 

                หากเธอคือคนหนึ่งที่ยอมจากสังคมอันหรูหรา ก้าวลงมาสู่ชีวิตอันเรียบง่าย  จงอย่าได้นึกน้อยใจว่าไม่ได้แต่งตัวทันสมัยอวดสายตาของใครๆตามห้างสรรพสินค้า หรือในสังคมชั้นสูงที่เธอเคยอยู่มานั้นอีกแล้ว  จงภูมิใจเถิดว่าบัดนี้เธอได้เดินออกจากความจอมปลอมได้ก่อนใคร  ในขณะที่คนอื่นยังพากันหลงใหลในสิ่งอันไม่จีรัง ดุจแมลงเม่าบินเข้ากองไฟเพราะความไม่รู้เท่าทันต่อชีวิตตามความจริง

 

                 หากเธอคือคนหนึ่งที่ก้าวพลาดล้มลงในวันนี้  ฉันขอเป็นคนจับมือเธออย่างมั่นคงแล้วบอกว่า “จงลุกขึ้น”  อย่าหวั่นไหว  ล้มลงแล้วก็จงลุกปัดฝุ่นผงที่มอมแมมออกไป  จงยิ้มให้กับตัวเองอย่างมั่นใจแล้วตั้งต้นใหม่เพื่อก้าวเดิน

 

                หากเธออยากรู้ว่าฉันคือใคร  จึงได้ให้กำลังใจแก่เธออย่างมากมายถึงเพียงนี้  ขอตอบอย่างเจียมตัวว่าฉันคือ “จิตเดิมแท้” ผู้คอยส่งเสริมให้กำลังใจแก่คนดี ผู้คอยขนาบดึงรั้งและปลอบขวัญแก่คนชั่ว

 

                ฉันอยู่กับเธอเสมอไม่ว่าในยามสว่างหรือในยามหมองมัว  ทั้งในยามที่เธอทำความดีหรือทำความชั่ว  ฉันนี้ก็ยังเฝ้ามองเธอไม่ห่าง อย่างไม่ให้คลาดสายตา

 

                                              ฉันเห็นเธอ ที่น้ำค้าง พร่างพราวใส

                                           เห็นเธอใน ลมหายใจ ของภูผา

                                           ที่ซอกหิน ไหลริน ของธารา

                                            ในเกสร ดอกไม้ป่า ที่แย้มบาน

                                               ในแสงแดด อุ่นไอ ในสายหมอก

                                             ในระลอก พลิ้วคลื่น สายลมผ่าน

                                              ฉันมองเธอ อยู่ทุกที่  และทุกกาล

                                              อยู่เนิ่นนาน ในใจฉัน นิรันดร ฯ

 

                                                                           คุรุอตีศะ

                                                                  ๓  พฤศจิกายน  ๒๕๕๗