ความรู้สึกว่ามีคุณค่า
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
ความรู้สึกว่ามีคุณค่า
สิ่งที่หล่อเลี้ยงหัวใจให้อยากมีชีวิตอยู่ ให้มีกำลังใจต่อสู้ มีแรงใจที่จะยืนหยัดในการสร้างสรรค์สิ่งดีงามและคุณความดีต่อไป สิ่งหนึ่งที่ทรงอิทธิพลอันยิ่งใหญ่ สิ่งนั้นก็คือความรู้สึกว่าตัวเราหรือชีวิตของเรามีคุณค่า อันเป็นกำลังใจในการฟันฝ่าต่ออุปสรรคขวากหนามทั้งปวง
คนป่วยที่ได้รับความเอาใจใส่จากคนที่รักหรือใกล้ชิดพาไปหาหมอตามนัด จะรู้สึกมีความสุข กระตือรือร้นและมีชีวิตชีวาในวันที่ได้ไปโรงพยาบาล สิ่งที่คนป่วยต้องการในส่วนลึกคือความรู้สึกว่าเขายังเป็นคนที่มีคุณค่า ยังมีคนดูแลห่วงใยเอาใจใส่ การตรวจรักษาหรือได้ยามารับประทานก็คือสัญลักษณ์แห่งความรักและห่วงใย คนป่วยที่ได้รับคุณค่าทางจิตใจเช่นนี้ย่อมจะกระตือรือร้นรอวันไปโรงพยาบาล เพราะเป็นวันที่เขารู้สึกว่ามีคุณค่ายิ่งกว่าวันอื่นใด
หญิงสาวที่ทนต่อลูกตื๊อหรือความเอาจริงเอาจังของชายหนุ่มหรือแก่ไม่ไหว จนต้องยินยอมตกลงปลงใจก็เพราะรู้สึกว่าตัวเองช่างเป็นคนมีคุณค่าสำหรับเขา ฝ่ายชายก็เกิดความภาคภูมิใจที่สาวสวยรับรักและมองเห็นคุณค่าของตน ต่างฝ่ายต่างรักกันเพราะอีกฝ่ายมองเห็นคุณค่าของตนเอง ผู้คนส่วนใหญ่จะมีความรักต่อกันอยู่ในระดับนี้เป็นส่วนใหญ่
สตรีที่รักบุรุษ เพราะเขาพากเพียรและมองเห็นเธอว่าเป็นสิ่งมีค่า บุรุษที่รักสตรี เพราะการที่เธอรับรักเขา แสดงว่าเธอมองเห็นคุณค่าของเขา ด้วยเหตุนี้คนที่อกหักหรือผิดหวังจึงรู้สึกเจ็บปวดและทรมานมาก เพราะการถูกลดคุณค่าไปมองเห็นคนอื่นมีค่ามากกว่าตัวเขา
ผู้ชายจะมีกำลังใจสร้างฐานะครอบครัว หรือมีใจสร้างสรรค์แสวงหาความก้าวหน้า ก็เมื่อเขารู้สึกว่าตัวเขามีคุณค่าในสายตาภรรยา หรืออยู่ในฐานะวีรบุรุษในสายตาของลูก กำลังใจอันสำคัญก็คือการที่จิตใจของภรรยารู้สึกว่าเขาคือผู้ยิ่งใหญ่และมีคุณค่านักในชีวิตของเธอ สิ่งนี้เองที่ทำให้ชีวิตของผู้ชายบางคนกลายเป็นคนสำคัญและเกิดภาวะผู้นำที่ยิ่งใหญ่
ผู้หญิงบางคนเลือกที่จะไม่ยอมหัดขับรถ จะเดินทางไปไหนก็ลำบากไม่เป็นอิสระ จะไปไหนทำอะไรก็ไม่ได้อย่างใจต้องเป็นภาระของสามีอยู่เสมอ แต่สิ่งหนึ่งที่แฝงอยู่อย่างลึกซึ้งในความไม่อิสระและไม่สะดวกนั้น ก็คือเธอจะได้รับความรักความสงสารและความไว้วางใจจากตัวผู้เป็นสามีหรือคนรักเป็นสิ่งชดเชยการอิสระจากการขับรถด้วยตนเอง
ในขณะที่ผู้หญิงที่ขับรถเองสามีก็หมดห่วงไม่เป็นภาระแต่อย่างใด แต่ผู้หญิงที่ขับรถไม่เป็นก็ได้รับสิ่งหนึ่งชดเชยคือความห่วงใย ให้สามีจำเป็นต้องคอยดูแลเอาใจใส่อันเป็นความใกล้ชิดความอบอุ่นที่ลึกซึ้งอยู่ในตัว
คุณค่าของชีวิตจึงไม่ใช่สิ่งที่มองเพียงด้านเดียว ความสะดวกสบายอย่างหนึ่งอาจทำให้ความรักความอบอุ่นและความเห็นอกเห็นใจขาดหายไปก็ได้ ในท่ามกลางชีวิตที่เหมือนต่ำต้อยหรือโดดเดี่ยวไม่มีใคร อาจเป็นความสุขใจและอบอุ่นด้วยความรักที่แท้จริงก็มี
ผู้คนในโลกต่างเรียกร้องและแสวงหา "ความรู้สึกว่ามีคุณค่า" มาตลอด หญิงสาวบางรายเมื่อถูกชายหนุ่มสารภาพรักขอแต่งงานอย่างไม่คาดฝันจึงถึงกับร่ำไห้ เพราะเหมือนเขาเป็นเทพบุตรมาชุบหัวใจของเธอที่เขามองเห็นเธอมีค่ากว่าหญิงใด สิ่งที่ทำให้เธอร้องไห้ด้วยความดีใจ ก็คือสิ่งที่เธอรอคอยมาเป็นเวลานานว่า เมื่อไหร่หนอเขาจะแสดงออกชัดเจนว่าเธอเป็นสิ่งมีคุณค่าสำหรับเขาที่สุด และบัดนี้ความฝันของเธอได้กลายเป็นความจริงแล้ว
การรอคอยว่าเมื่อไหร่หนอจะมีคนมองเห็นเราอย่างมีคุณค่า ไม่มีความความแน่นอนเที่ยงแท้เพราะขึ้นอยู่กับหัวใจของมนุษย์ สิ่งสำคัญคือการรู้สึกว่าชีวิตของเรานี้มีค่าอยู่เสมอทุกลมหายใจ ใครจะมองเห็นว่าเรามีคุณค่าต่อเขาหรือไม่ จึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะชีวิตของเรามีค่าอยู่ทุกวัน คุณค่าของตัวเรานั้นไม่ใช่ต้องรอให้คนอื่นมาตัดสินเสมอไป
เรามีคุณค่าเสมอดุจเดียวกับผีเสื้อ ที่โผบินอย่างอิสระและโฉบลงดูดเอาเกสรดอกไม้อย่างไม่รู้เบื่อ เรามีค่าและมีราคารักษาความเค็มมาอย่างสม่ำเสมอดุจเกลือ เรามีคุณค่าที่หัวใจดวงนี้พร้อมที่จะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเจือจาน
เรามีคุณค่าอย่างแน่นอน พระอาทิตย์จึงส่องแสงและมอบความอบอุ่นให้แก่เราในทุกเช้า หากคุณค่าไม่มีในตัวเรา ไหนเลยผืนดินจะยอมให้เราเหยียบย่ำเดินไปโดยไม่บ่นสักคำ
ทุกชีวิตมีกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่อไป ก็ด้วยหัวใจที่รู้สึกว่าตัวเรานี้ยังมีคุณค่าในสายตาของใครบางคนหรือผู้คนทั้งหลาย แต่นั่นยังเป็นความเปราะบางของชีวิตเกินไป หากคุณค่านั้นยังอาศัยการรอคอยจากคนอื่นมามอบให้แก่ตัวเรา
ต่อไปนี้จงหันมาสร้างความดีโดยไม่ต้องรอว่าใครจะมองเห็น มีสติในการทำหน้าที่เรื่อยไปโดยไม่ต้องรอให้ใครมาชื่นชมหรือเยินยอ
คุณค่าของเรามีอยู่แล้วอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่วันลืมตาดูโลก แต่ที่เราต้องพากันมาจมอยู่กับความเศร้าโศกอย่างมากมายนั้นเพราะเราถูกหลอกว่าเราคือทาส เพียงตระหนักถึงความจริงว่าเรามิใช่ผู้ต่ำต้อยยากจนมาก่อนแต่อย่างใด เราก็จะพบกับชีวิตใหม่และได้ครองสมบัติกลับสู่ความเป็นมหาเศรษฐีตามเดิม
หมั่นมีสติ ระลึกรู้ลงที่กาย ที่ใจขณะนี้ ปล่อยให้อดีตทั้งมวลผ่านไปดุจสายน้ำ อย่าอาลัยอาวรณ์ต่อความหลังในวันวาน จงผสานหัวใจอยู่กับความจริงขณะนี้อันเป็นมรรคาแห่งอริยะ
ไม่ต้องแสวงหาหรือไขว่คว้าความรู้สึกว่ามีคุณค่าจากใครหรือสิ่งใดให้หัวใจต้องอ่อนล้า เพราะในความเป็นจริงแล้ว คุณค่าของเราไม่เคยหายไปไหน ไม่เคยลดลงไปแม้แต่น้อย
จงจำไว้ว่า คุณค่าของเราไม่ใช่รอให้ใครมามองเห็นหรือตัดสิน แต่คุณค่าของเรามีอยู่เสมอตั้งแต่วันที่ถือกำเนิดเกิดมา เราจงภาคภูมิใจในชีวิตของเราทุกขณะของลมหายใจ
ทำจิตให้ตื่นและแช่มชื่นขึ้น ยิ้มน้อยๆในดวงใจและตระหนักรู้ความจริงในขณะนี้ แล้วจะพบว่าแท้ที่จริงแล้ว คุณค่าอันสูงส่งของเรานี้มีอยู่เสมอและดำรงอยู่คู่กับตัวเราตลอดมา
คุรุอตีศะ
๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๗