รักอย่างตื่นรู้

รักอย่างตื่นรู้

 


                  โดยคุณสมบัติอันแท้จริงของความรักไม่มีการทำร้ายใคร  หากเรารู้สึกว่าความรักทำให้เราทุกข์และเจ็บปวด  มันไม่น่าจะใช่ความรัก  คงเป็นสิ่งอื่นที่อยู่ภายในตัวเรามากกว่า


                  เราจงมีสติและพยายามก้าวข้ามวงจรนี้ไปให้ได้  แม้ว่าเวลานี้เราจะรู้สึกเจ็บปวดสักเพียงใด  เพราะสิ่งที่เราเรียกว่าความรักนั้นสามารถซ่อนสิ่งที่ไม่น่ารักไว้มากมาย  จิตที่ซับซ้อนซ่อนเร้นและช่างคิดมากของเรา  มักเจ้าเล่ห์เพทุบาย  ชอบหลอกทั้งคนอื่นและตัวเองอยู่เสมอ


                  คำว่า "ความรัก"ที่เรามักใช้คำนี้กันอยู่ทั่วไปนั้น  จริงๆแล้วหาใช่ความรักไม่ แต่มันคือราคะ ซึ่งทำให้จิตจมลงในความมัวเมาไม่สดชื่นแจ่มใส  และเจ้าราคะนี้เองคือสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ทั้งชายและหญิงรู้สึกถึงความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน


                  การที่เรามองใครด้วยใจที่เต็มไปด้วยราคะ  ย่อมเป็นการลดคุณค่าของอีกฝ่าย  ทำให้คนกลายเป็นวัตถุสิ่งของ  เป็นการดูหมิ่น  เหยียดหยามอย่างลึกซึ้งอยู่ในตัว  แต่ผู้คนส่วนใหญ่ย่อมไม่มีสติคมชัดพอที่จะมองเห็นสภาวะอันละเอียดอ่อนเช่นนี้  การผูกพันกันด้วยอำนาจแห่งราคะเพียงอย่างเดียว  มนุษย์ชายหญิงจึงไม่รู้สึกนึกเคารพนับถือหรือมีเมตตาต่อกัน


                 ไม่มีมนุษย์คนใดต้องการจะเป็นเพียงวัตถุสิ่งของ ที่เมื่อเบื่อแล้วก็ถูกโยนทิ้งไป  ไม่มีใครต้องการจะตกอยู่ในฐานะถูกใช้สอยไม่ว่าชายหรือหญิง  ไม่มีใครต้องการเป็นเพียงสินค้า  ไม่มีใครต้องการเป็นเพียงทางผ่าน  ดังนั้น  มนุษย์ทั้งหลายจึงต้องการเข้าสู่พิธีแต่งงานหรือได้ใช้ชีวิตคู่อย่างสมบูรณ์ตามประเพณีในสังคมนั้นๆโดยเฉพาะผู้อยู่ในฐานะสตรีเพศ


                ความรักที่แท้จริงเป็นสิ่งที่อยู่ตรงกันข้ามกับราคะ  แต่เนื่องจากพระพุทธองค์ผู้ทรงรู้แจ้งโลกและเข้าใจอุปนิสัยที่แท้จริงของสัตว์โลกตามความเป็นจริง       พระองค์ทรงทราบดีว่าพวกเขาทั้งหลายไม่อาจพรากกายและใจออกจากความสุขทางกามารมณ์ จึงทรงวางหลักให้ฆราวาสประพฤติปฏิบัติอยู่ในกรอบของศีลห้า ตามกำลังอินทรีย์ที่มนุษย์ชายหญิงพอประพฤติปฏิบัติได้   ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นเว้นขาดจากเมถุนธรรมเหมือนนักบวชผู้ประพฤติพรหมจรรย์

 
                     การมีสติที่งอกงามขึ้น ด้วยทาน  ศีล  ภาวนา ตามลำดับ จึงทำให้ฆราวาสสามารถบรรลุเป็นพระโสดาบัน  เมื่อได้สดับพระธรรม ปฏิบัติธรรม  แล้วเกิดปัญญาเข้าใจในสัจธรรมความจริง เมื่อมีเหตุปัจจัยอันเหมาะสมและถึงกาลเวลา


                 พระพุทธองค์และปวงเหล่าพระอริยสงฆ์ผู้เข้าใจมนุษย์และเข้าใจโลก  จึงให้มนุษย์ทั้งหลายไม่ว่าชายหรือหญิง หมั่นเจริญสติตามความเป็นจริง แม้จะอยู่ท่ามกลางราคะกิเลสตามวิสัยของชาวโลก  ดุจโคลนตมแม้จะดูน่ารังเกียจ  แต่ดอกบัวก็สามารถงอกเงยและชูช่อดอกอันสูงส่งงดงามอยู่เหนือโคลนตมได้  ความรักกับราคะแม้จะอยู่ด้วยกัน  แต่ความรักอันสูงส่งงดงามก็สามารถมีได้  หากเข้าใจการเจริญสติภาวนา


                   ความรักจะให้ความรู้สึกนับถืออีกฝ่ายหนึ่งในความเป็นตัวเขา  หากเรารักใครสักคน  เราจะรักในความเป็นตัวเขา  เราจะไม่รู้สึกเจ็บปวด  ความรักจะทำให้รู้สึกถึงความรุ่มรวยและเต็มเปี่ยม


                 ความเจ็บปวดเกิดจากอีโก้หรือความสำคัญของตัวเราถูกริดรอน เรารู้สึกถูกบั่นทอนความสำคัญให้ลดลงหรือสูญหายไป  ความต้องการที่จะครอบครองหรือความต้องการที่จะมีอำนาจเหนือกว่า  ที่เราเคยได้รับหรือยึดมั่นตลอดมา  ได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนักหรือถูกทำลาย  ด้วยเหตุนี้เราจึงรู้สึกผิดหวังและเสียใจ  ความเจ็บปวดในหัวใจจึงเกิดขึ้น


                 ความรักในรูปแบบอันบริสุทธิ์ก็คือการแบ่งปันความสุข  ไม่รู้สึกเรียกร้องอะไรตอบแทน  ไม่คาดหวังอะไรจากเขาทั้งนั้น  ความสุขของเราคือการได้ให้  ไม่ใช่การรับ  ดังนั้นคนเราจึงสามารถรักกันได้  ทั้งๆที่อยู่ไกลกันเป็นพันๆไมล์  โดยที่ไม่ต้องมาอยู่ต่อหน้าต่อตากัน


               ให้หัวใจดวงนี้เรียนรู้ความรักแบบตื่นรู้ให้มากขึ้น  คนเราส่วนใหญ่มักเรียนรู้ความรักอยู่เพียงด้านเดียวคือความหลงใหลต่อกันและการมุ่งครอบครองซึ่งกันและกัน  ผู้คนจึงมักออกจากวงจรเช่นนั้นไม่ได้  และแทบจะร้อยทั้งร้อยก็ไม่ค่อยจะเต็มใจออกจากวงจรดังกล่าวเสียด้วย  แม้จะเจ็บปวดและมีน้ำตาสักกี่ครั้ง ส่วนใหญ่แล้วต่างก็ยังยืนยันว่าจะขออยู่กับสิ่งนั้นต่อไป


                ค่อยๆเปลี่ยนความเจ็บปวดที่เคยมีมากมาย  ให้กลายเป็นความรักที่สะอาดขึ้นทีละน้อย  หากหัวใจดวงนี้ยังปวกเปียกอ่อนแอเกินไปและรู้สึกไร้ที่พึ่ง  จงหาเวลาไปกราบไหว้พระพุทธรูปหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ให้หัวใจดวงนี้ได้มีโอกาสสัมผัสกับพลังศรัทธาของศาสนา


               จากความรักที่แสนเจ็บปวดทับถมหัวใจตลอดมา  อาจถึงเวลาแห่งการพัฒนา  จากความรักความใคร่ตามวิสัยสัตว์โลกตามธรรมดา  กลายเป็นความรักความศรัทธาที่ทำให้หัวใจอบอุ่นและเกิดแสงสว่างในหัวใจขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์


                ความรักอันเคยเป็นเพียงระดับสามัญธรรมดา  อาจกลายเป็นความรักความเมตตา  กลายเป็นพลังแห่งการริเริ่มสร้างสรรค์และมีความรักต่อเพื่อนมนุษย์ในวงกว้างออกไปมากขึ้น


              หัวใจของเราจะเหมือนก้าวเข้าสู่ดินแดนทิพย์ หรือได้สัมผัสอาณาจักรแห่งความรักอันยิ่งใหญ่


              เป็นความรักแห่งพุทธะ  ที่รู้ตื่นเบิกบาน  เป็นความรักของพระอริยเจ้าทั้งหลายที่อยู่เหนือราคะ  อันเป็นความรักที่เต็มเปี่ยมด้วยเมตตาและปัญญาตลอดกาล

 

                                                                                               คุรุอตีศะ
                                                                                      ๒๕  กันยายน  ๒๕๕๗