คุณธรรมอยู่เหนือคำพูด
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
คุณธรรมอยู่เหนือคำพูด
หัวใจที่เปี่ยมด้วยความกตัญญู อุดมไปด้วยทั้งความเมตตาและความกล้าหาญอยู่ในตัว สามารถที่จะเกิดได้ แม้ในหัวใจของเด็กที่มองดูเหมือนยังไร้เดียงสาในสายตาของผู้ใหญ่ เพราะคุณธรรมภายในหัวใจมิใช่เกิดขึ้นด้วยการอบรมสั่งสอนในชาตินี้เท่านั้น แต่คือการฝึกฝนอบรมจิตที่ได้กระทำบำเพ็ญไว้ก่อนแล้วข้ามภพข้ามชาติ ก่อนที่วิญญาณจะมาปฏิสนธิใหม่ มีร่างกายใหม่ในชาติปัจจุบัน
เด็กชายธีระพัฒน์ วงษ์บุญมี อายุ ๘ ปี เป็นนักเรียนชั้น ป. ๒ โรงเรียนวัดหนองก่อไผ่ ตำบลวังสำโรง อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร มีวิถีชีวิตต่างจากเด็กในวัยเดียวกัน
ในขณะที่เด็กทั่วไปในวัยเช่นนั้น กำลังเล่นสนุกสนานกับเพื่อนฝูง เล่นเกมส์ในคอมพิวเตอร์ หรืออ้อนพ่อแม่ให้รักเอาใจใส่ตนเอง ไม่เคยรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบอะไร ซึ่งเป็นธรรมดาของเด็กโดยทั่วไป แต่เด็กชายธีระพัฒน์กลับต้องรับภาระหนัก ในการที่ต้องคอยเลี้ยงดู ผู้เป็นพ่อวัย ๒๙ ปี และผู้เป็นแม่อายุ ๓๑ ปี ที่ล้มป่วยด้วยโรคร้ายระยะสุดท้ายทั้งคู่ พร้อมทั้งยังต้องคอยดูแลน้องชาย อายุ ๑ ปี ๗ เดือนอีกด้วย มีชีวิตอยู่ท่ามกลางความยากจนไม่มีเงินซื้อข้าว บางวันต้องไปขอคนข้างบ้าน บางวันก็ขอครูที่โรงเรียนบ้างพอประทังชีวิต
เด็กชายธีระพัฒน์เป็นนักเรียนที่ต้องขาดเรียนเป็นประจำ ไม่ใช่หนีเที่ยวซุกซนหรือเกเรเหมือนเด็กทั่วไป แต่ขาดเรียนเพราะบางวันเป็นห่วงน้อง กลัวน้องที่ยังเล็กจะตกบ่อน้ำตาย สิ่งหนึ่งที่ผิดสังเกตของครูประจำชั้นอย่างมากก็คือ แม้ในวันที่เขามาเรียน เขาก็จะแอบหนีออกจากโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน เพื่อขี่จักรยานกลับบ้าน ระยะทางไป-กลับ ๑๒ ก.ม. อยู่เป็นประจำ ครูประจำชั้นจึงแอบตามไปดู
เมื่อไปถึงกระต๊อบ ครูถึงกับน้ำตาร่วง เมื่อพบว่าลูกศิษย์ตัวน้อยของตนที่ขาดเรียนเป็นประจำและหนีกลับบ้านช่วงกลางวันตลอดมานั้น เขากลับไปเพื่อหาอาหาร พร้อมกับป้อนข้าวพ่อกับแม่ที่นอนอยู่ในมุ้งเพราะป่วยลุกไม่ไหว และป้อนข้าวน้องชายที่อายุยังไม่ถึงสองขวบ
เด็กชายในวัยที่มีอายุเพียง ๘ ปี ต้องรับผิดชอบทำงานทุกอย่างในบ้าน ไม่ว่าจะต้องหุงข้าว ทำกับข้าว เลี้ยงน้อง ต้มน้ำร้อนชงนมให้น้อง บางวันไม่มีข้าวสารจะหุง เขาก็จะไปหาขอตามคนข้างบ้านที่มีจิตเมตตาช่วยเหลือกันไปตามประสายาก บางวันเขาก็บากหน้าไปขอข้าวครูที่โรงเรียนเพื่อเอาไปป้อนพ่อกับแม่ที่ป่วยลุกไม่ไหวนอนอยู่แต่ในมุ้ง ไม่น่าเชื่อเลยว่าเด็กชายซึ่งมีอายุเพียง ๘ ปี จะมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ หนักแน่น แกร่งกล้าและน่าสรรเสริญถึงเพียงนี้
ในที่สุดอานุภาพแห่งดวงจิตที่เปี่ยมด้วยความกตัญญูมีคุณธรรมอันเด่นชัด บัดนี้ผู้คนก็ได้รับรู้และเกิดความซาบซึ้งใจไปทั่วแดน นอกจากความดีของเด็กชายธีระพัฒน์ สิ่งที่ต้องยกย่องเป็นอันดับต่อไป ก็คือความมีคุณธรรมของคุณครูสมใจ เอี่ยมพ่วง ครูประจำชั้น ที่มีทั้งความเมตตาและมีสติปัญญาสมกับเป็นแม่พิมพ์ของชาติ จนทำให้เด็กน้อยยอดกตัญญูไม่ต้องเผชิญกับชีวิตอันสาหัสอยู่อย่างโดดเดี่ยวตามลำพัง ซึ่งเกินกำลังของตนต่อไปอีกแล้ว
ต้องยกย่องผู้อำนวยการโรงเรียนที่มองเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ นำเรื่องนี้เรียนให้ปลัดอำเภอและนายอำเภอบางมูลนากทราบ และท่านนายอำเภอก็เป็นนักปกครองที่เปี่ยมด้วยคุณธรรมประจำใจ จึงกล้าประกาศคุณความดีของเด็กออกไป จนบัดนี้ได้มีผู้สนใจให้ความช่วยเหลือและแสดงความจำนงในการที่จะรับอุปการะเด็กชายยอดกตัญญูอย่างมากมาย
คนมีความกตัญญูรู้คุณ จะอยู่ในถิ่นแคว้นแดนใด ย่อมนำความเป็นสิริมงคลและนำพาแสงสว่างรุ่งเรืองมาสู่ดินแดนนั้น แม้ว่าจะเป็นถิ่นกันดารห่างไกลเพียงใด แต่ทุกคนที่ได้ยินข่าว ก็เหมือนได้อยู่ใกล้และรู้สึกสนิทสนมคุ้นเคย เสมือนหนึ่งเป็นญาติกับบุคคลนั้น โดยไม่จำเป็นต้องได้เห็นตัว นี้คืออานุภาพแห่งคุณธรรมในดวงใจ ที่เป็นเหมือนแม่เหล็กหรือสิ่งเชื่อมต่อถึงกัน ให้แก่หัวใจของผู้คนไม่ว่าจะอยู่ ณ มุมใดของโลกใบนี้
ความมีคุณธรรมที่แท้จริง เป็นสิ่งที่อยู่เหนือคำพูด คุณธรรมย่อมคือสิ่งที่กลั่นออกมาจากใจแล้วกลายเป็นพฤติกรรมหรือการกระทำในภายนอก ใจที่งดงามด้วยความรักความเมตตา จะกลั่นออกมาให้ประจักษ์และกลายเป็นภาพลักษณ์แห่งความกตัญญูให้ทุกคนได้รู้
คนที่เปี่ยมด้วยหัวใจที่กตัญญู ส่วนมากแล้วมักไม่ค่อยคิดว่าตัวเองมีความกตัญญู รู้แต่ว่าขณะนี้ต้องรีบไปหาอาหารป้อนให้พ่อกับแม่ที่กำลังหิวนอนรออยู่ วันนี้เป็นห่วงน้องกลัวจะไปตกน้ำในบ่อ ก็เลยไม่ยอมไปโรงเรียน และก็ไม่รู้สึกอยากไปพูดอวดครูหรืออวดใครว่าเขาช่างกตัญญูยิ่งนักที่เลี้ยงพ่อแม่ดูแลน้อง เขาจะทำไปตามมโนธรรมอันบริสุทธิ์ที่เกิดขึ้นในห้วงสำนึกของเขาในช่วงเวลานั้น ไม่มัวคิดถึงผลได้ผลเสีย ไม่คิดถึงห่วงหาอดีต ไม่พร่ำถึงอนาคต
จะมีใครกล้าปฏิเสธว่าเด็กชายธีระพัฒน์ไม่ได้เป็น “นักปฏิบัติธรรม” สิ่งที่เด็กชายธีระพัฒน์ปฏิบัติอยู่นี้เอง คือการปฏิบัติธรรมอย่างสำคัญในฐานะของลูกที่พึงกระทำต่อพ่อแม่และในฐานะพี่ที่มีต่อน้องชายอย่างยากนักที่น้อยคนจะทำได้ กรรมฐานอันยิ่งใหญ่ อันได้แก่เมตตา กรุณา คือตัวภาวนาที่เด็กคนนี้มีอยู่ทุกลมหายใจ ความกล้าหาญในทางจริยธรรมอันยิ่งใหญ่ เด็กคนนี้คือผู้ปฏิบัติได้อย่างสมบูรณ์ในตัว
คนอย่างนี้แหละที่ไม่ต้องไปปฏิบัติภาวนาอย่างคร่ำเคร่งหรือเคร่งเครียด เพราะสติของเขานั้นดีเยี่ยมอยู่ก่อนแล้ว เป็นสติธรรมชาติมากกว่าอาจารย์ที่สอนกรรมฐานบางท่านด้วยซ้ำ คนอย่างนี้ สมควรที่จะเจริญสติภาวนาอย่างเป็นธรรมชาติต่อไป หากเขามีวาสนาในทางโลก ก็จะกลายเป็นผู้นำหรือนักปกครองที่ยิ่งใหญ่เป็นที่พึ่งของคนต่อไป หากเขาออกบวชก็จะมีบารมีสามารถปฏิบัติพระกรรมฐานจนไปสู่มรรคผลหรือบรรลุความหลุดพ้น เป็นกำลังในการจรรโลงรักษาพระศาสนาเหนือกว่าพระภิกษุทั่วไปอย่างแน่นอน
คนมีคุณธรรมที่แท้ ไม่เคยคิดว่าตัวเองมีคุณธรรม คนมีความกตัญญู ไม่เคยคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำคือความกตัญญูอะไร เพราะคุณธรรมอันลึกซึ้งแท้จริง เป็นสิ่งที่อยู่เหนือคำพูด
การมีชีวิตอยู่กับความจริงในขณะนี้ อย่างที่เด็กชายธีระพัฒน์บำเพ็ญนั่นแหละคือการปฏิบัติธรรมตามที่พร่ำสอนตลอดมา สติที่เกิดขึ้นขณะนี้ ย่อมคือบ่อเกิดแห่งคุณธรรมทั้งปวง
การพร่ำพูดแต่เรื่องคุณธรรมอย่างที่คนทั่วไปทำกันนั้น เป็นเพียงผิวของคุณธรรม ยังหาใช่คุณธรรมที่จะงอกเงยขึ้นในจิตใจอย่างแท้จริงไม่ แต่ก็ยังดีกว่าไม่พูดถึงเสียเลย
คุณธรรมจะเกิดขึ้นจริงก็ต่อเมื่อ มีสติทำหน้าที่ของตนตามความเป็นจริงในขณะนี้ โดยไม่ต้องคิดว่าเป็นคุณธรรมอะไร ไม่สนใจอดีต ไม่เพ้อฝันอนาคต
หลังจากนั้นคุณธรรมทั้งปวงจะหลั่งไหลเข้าสู่หัวใจ ไม่ว่าจะเป็นความรักความเมตตา ความกล้าหาญ ความกตัญญู หรือสิ่งที่มีชื่อเรียกถึงคุณความดีอื่นใดอันเป็นที่ยกย่องสรรเสริญของชาวโลก
คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าคนมีความเมตตา จะต้องมีลักษณะยอมให้ใครทำอะไรก็ได้ไม่ว่าจะถูกหรือผิด ดีหรือชั่ว ความจริงแล้วนั่นไม่ใช่ลักษณะของเมตตา แต่บางทีคือความอ่อนแอหรือการรักษาตัวเองเพื่ออยู่รอดมากกว่า
ลักษณะของคนมีคุณธรรมที่แท้ ย่อมมีทั้งความเมตตาและความกล้าหาญ คนที่มีเมตตาอย่างเต็มเปี่ยมในหัวใจ เมื่อถึงยามคับขันบางเหตุการณ์ จะมีความเด็ดขาดกล้าหาญปรากฏออกมาด้วยเสมอ เพราะความกล้าหาญที่แท้จริงจะมีความเมตตาซ่อนอยู่ในนั้น
คนที่มีเมตตาธรรมจริงแล้ว จะมีความหวังดีและมีความจริงใจต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน จะมีความกล้าหาญในการที่ป้องกันคนอื่นมิให้ตกจมลงไปในทางชั่ว หากอยู่ในวิสัยที่ตนเองสามารถห้ามปรามหรือป้องกันได้ ก็จะแสดงความกล้าหาญอย่างจริงใจออกมาอย่างไม่รีรอ
เด็กชายธีระพัฒน์ ยังไม่ได้เรียนเรื่องความกตัญญูคืออะไร ยังไม่รู้จักคำว่าคุณธรรมด้วยซ้ำไปเพราะเรียนหนังสือแค่ ป. ๒ เท่านั้น แต่สิ่งที่เด็กน้อยคนนี้ได้ทำลงไปทั้งหมด กลับคือสิ่งที่เราเรียกว่าคุณธรรม ความกตัญญู คุณธรรมหรือความกตัญญู จึงเป็นสิ่งอยู่เหนือคำพูด
ในขณะที่นักเรียนและผู้คนส่วนใหญ่ทั่วไป กำลังเรียนเรื่องความกตัญญูว่าคืออะไรและต้องทำอย่างไร แต่เด็กน้อยคนนี้ได้กลายเป็นนักปฏิบัติธรรมผู้ยิ่งใหญ่ กลายเป็นเครื่องหมายแห่งคุณธรรมและความกตัญญูปรากฏแก่มหาชนในวงกว้างออกไป
สูงส่งและงดงาม ยืนเด่นเป็นสง่า อยู่เหนือคำพูดใดๆ อย่างเต็มบริบูรณ์แล้วทุกประการ
คุรุอตีศะ
๒๑ กันยายน ๒๕๕๗