บุปผชาติที่เบ่งบาน
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
บุปผชาติที่เบ่งบาน
การเจริญสติสมาธิภาวนา ทำให้ตระหนักถึงดนตรีการอันยิ่งใหญ่ เป็นดนตรีการที่ปราศจากกระแสเสียงสำเนียงใดๆ มีเพียงธรรมชาติที่สงบสงัดเป็นผู้ขับร้องบรรเลง และจะได้ยินดนตรีอันไพเราะและวิเศษนี้ได้ ก็ด้วยหัวใจที่สงบและไร้เดียงสาเท่านั้น
สรรพสิ่งล้วนสอดคล้องกลมกลืน ทุกสิ่งล้วนลื่นไหลและไร้การกำหนดหมาย แมกไม้กลมกลืนอยู่กับโลก โลกกลมกลืนอยู่กับสายลม หยาดฝนกลมกลืนอยู่กับยอดไผ่ที่กำลังพลิ้วไหวล้อเล่นกับละอองฝน ผู้คนกลมกลืนกับแมกไม้และผืนดินที่กำลังชุ่มฉ่ำ
แม้ฟากฟ้าก็ยังกลมกลืนอยู่กับดวงดาราที่ส่องแสงระยิบระยับ ทุกสรรพสิ่งมีความสอดคล้องกลมกลืนเช่นนี้ไม่มีสิ้นสุด ไม่มีสิ่งใดเหลื่อมล้ำสิ่งใด
หามีสิ่งใดสูงสิ่งใดต่ำในขณะนี้ไม่ แม้แต่ใบหญ้าเล็กๆก็มีความสำคัญยิ่งใหญ่เทียบเท่าดวงดาวที่ลอยอยู่ท่ามกลางฟากฟ้า ทุกสิ่งล้วนหล่อเลี้ยงและเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนดำเนินไปอย่างสอดคล้องกลมกลืน แต่มนุษย์ส่วนใหญ่มิได้ใส่ใจตระหนักรู้ ผลแห่งการไม่ตระหนักรู้นั้นได้กลายเป็นความทุกข์ และเขาก็ตองทนทุกข์กับฝันร้ายที่เขาสร้างขึ้นเองเรื่อยมา
เราเพียงเงียบลงสักพักเพื่อจะได้ยิน ไม่เพียงเงียบสงบ แต่เมื่อเราได้กลายเป็นความเงียบ เมื่อตัวเราได้ถูกลืนหายไปเป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่ง นั่นคือการบรรจบพบกันระหว่างมนุษย์และสรรพสิ่ง นั่นคือการได้รู้จักจิตเดิมแท้ที่ถูกบดบังและถูกลืมเลือนมานานแสนนาน
มนุษย์ทุกผู้ทุกนามจะต้องปลูกฝังดวงจิตให้เติบโตขึ้นเป็นบุปผชาติ ทุกคนจะต้องผลิดอกและเบ่งบาน ดอกไม้ของมนุษย์ย่อมต่างจากดอกไม้สามัญทั่วไป มันไม่เหมือนดอกบัว ดอกกุหลาบ หรือดอกคาร์เนชั่น ซึ่งงอกงามเติบโตเพียงไม่กี่วันก็ถูกเด็ดไปหรือเหี่ยวเฉาโรยรา
ดอกไม้แห่งมนุษย์ย่อมประกอบด้วยความรัก ประกอบด้วยเสรีภาพ บุปผชาติแห่งมนุษย์ย่อมคือความเบิกบานและสิ่งอันสูงส่งล้ำค่าแห่งจิตวิญญาณทั้งมวล
เมื่อใดที่เราได้รับรู้ได้ถึงสิ่งนี้ ชีวิตจะเปี่ยมด้วยปีติ และในปีติสุขอันล้ำลึกนั้นเราจะรู้สึกว่าเราได้รับพรจากสรรพสิ่ง
ความรักย่อมเข้ามาสู่ชีวิตของเราโดยไม่ต้องเรียกร้อง เราย่อมมีปีติและเกิดความสำนึกตื้นตันขึ้นมาโดยธรรมชาติ การภาวนาต่อจากนั้นจะทำไปด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความรักและสำนึกตื้นตัน หัวใจเช่นนี้นั้นย่อมมีทั้งความรักและอิสรภาพอยู่ในตัวอย่างพร้อมมูล
การภาวนาเป็นเหมือนดั่งดอกไม้ ปีติสุขที่เกิดขึ้นอยู่ภายใน ย่อมเป็นดั่งฤดูใบไม้ผลิที่มวลบุปผชาติที่กำลังเบ่งบาน ความอบอวลด้วยกลิ่นหอมย่อมรำเพยออกมาจากดอกไม้ที่เบ่งบาน นี้คือความสอดประสานและความกลมกลืนของสรรพสิ่ง
เมื่อใดที่การภาวนาได้หลั่งล้นออกมาโดยปราศจากความพยายาม อย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อใดที่เธอรู้สึกสำนึกตื้นตันโดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล เพียงแค่ดำรงอยู่... เพียงชั่วขณะนั้น...ทุกสิ่งก็เพียงพอแล้ว
ดาบสนิรนาม
๗ มิถุนายน ๒๕๕๗