นักเสียสละที่แท้
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
นักเสียสละที่แท้
ผู้ที่มีความเสียสละที่แท้จริง มักไม่ค่อยคิดว่าตัวเองเป็นนักเสียสละ เขามักคิดแต่เพียงว่าสิ่งนี้คือภาระหน้าที่หรือความรับผิดชอบที่ตนควรทำเท่านั้นมากกว่า
เขาทนไม่ได้ต่อจิตสำนึกและมโนธรรมอันเจือด้วยความเมตตากรุณา จึงกล้าที่จะยอมทนต่อความทุกข์ยากลำบากเพื่อให้ผู้อื่นพ้นจากปัญหาและความทุกข์ที่กำลังเผชิญ ในขณะนั้นเขาแทบจะไม่ได้คิดว่าจะต้องเสียสละอะไรด้วยซ้ำ แต่คุณธรรมที่อยู่ภายในกระตุ้นให้เขาทนไม่ได้ที่จะต้องทำในสิ่งนั้นต่างหาก
พ่อแม่ที่มีคุณธรรมแห่งความเป็นบิดามารดาอย่างเต็มเปี่ยม จะมีความคิดว่าตัวเองช่างเป็นนักเสียสละอันใหญ่หลวงต่อลูกก็หาไม่ แต่เพราะหัวใจที่เปี่ยมด้วยความรักที่ท่วมท้นหัวใจ จึงเสียสละความเหนื่อยยากทั้งปวงเพื่อลูกได้ด้วยความเต็มใจ โดยไร้การบังคับใดๆให้รู้สึกว่าต้องกระทำ
หากพ่อแม่คนใดเริ่มคิดขึ้นมาในใจว่าตัวเราเองนี้ช่างเสียสละมากมายนัก ดังนั้นลูกจะต้องรักและกตัญญูตอบแทนคุณแก่เราให้เป็นไปดังที่หวัง พ่อแม่คนนั้นที่เริ่มคิดทวงบุญคุณในความเสียสละของตน จะเริ่มรู้สึกผิดหวังหรือหวาดหวั่น นับตั้งแต่ความคิดแรกที่เกิดขึ้นว่าตัวเองเป็นผู้เสียสละนั้นเอง
ผู้ที่มีหัวใจที่เปี่ยมด้วยความรักเท่านั้น จึงจะเป็นนักเสียสละอย่างแท้จริงได้ ดังนั้น คำกล่าวที่ว่า “ความรักคือการให้ ความรักคือการเสียสละ” จึงเป็นคำที่ลึกซึ้งและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ซึ่งน้อยคนนักจะเข้าถึงและได้สัมผัสความรู้สึกอันสูงส่งดังกล่าว
การพร่ำสอนให้ผู้คนที่ยังไม่รู้จักความรักอันแท้จริงให้ “เสียสละ” จึงเป็นเพียงคำสอนปลอบประโลมใจซึ่งแทบไม่เกิดผลอันใด เสมือนบอกให้คนพเนจรยากไร้ช่วยบริจาคเงินสร้างโบสถ์วิหารซึ่งเกินฐานะที่จะเป็นไปได้ในความเป็นจริง
สำหรับหัวใจที่ยังไม่สามารถเข้าถึงความรักอันสูงส่ง อันลึกซึ้งถึงขั้นเข้าใจในความหมายของคำว่า “ความรักคือการให้” จงทำอะไรเพื่อตัวเองไปก่อนโดยไม่ต้องไปคิดจะเสียสละสิ่งใด เพราะในหัวใจยังไม่มีกำลังแห่งความรักอย่างเพียงพอที่จะมอบน้ำใจและมีความสุขจากการได้เสียสละเพื่อผู้อื่น
สำหรับผู้ที่มีพลังแห่งความรักและพลังสร้างสรรค์อย่างเต็มเปี่ยม ทุกย่างก้าวและทุกการกระทำ ย่อมเป็นการเสียสละโดยเราไม่ต้องมีจุดมุ่งหมายหรือมีเจตนา แต่พลังแห่งความเมตตากรุณาที่เอ่อล้นออกไปจากหัวใจที่หวังดีและปรารถนาดีต่อทุกคนทุกชีวิต ขอให้ทราบว่าทุกขณะจิตที่แผ่ไมตรีออกไป ย่อมกลายเป็นพลังแห่งความเสียสละเสมอโดยไร้เจตนา นี้คือนักเสียสละที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองได้เสียสละ เป็นการเสียสละที่ไร้อัตตาในการเสียสละ นี้คือ นักเสียสละที่แท้จริง
เมื่อใจยังโหยหาความรักและยังไม่เต็มเปี่ยม ยังไม่ต้องบังคับหัวใจหรือเสแสร้งที่จะเสียสละเลียนแบบใครทั้งสิ้น จงอยู่เพื่อตัวเอง ทำให้ตัวเองมีความสุขทีละน้อยไปแต่ละวันจนเคยชิน ความเห็นแก่ตัวที่เคยมีอยู่มากมายจะค่อยๆลดลงไปเพราะอำนาจแห่งสติที่เริ่มรู้จักตัวเองตามความเป็นจริง
ในเมื่อหัวใจดวงนี้ยังไม่สามารถเสียสละสิ่งใดแก่ใครได้ ก็จง “อยู่เพื่อตัวเอง”ไปก่อน ค่อยๆสะสมเงินทีละบาทจนกลายเป็นคนมีเงินร้อยเงินพันต่อไป หลังจากนั้นเราจะเริ่มมีใจอยากเสียสละออกไป เพราะเนื่องจากบัดนี้ตนเองเริ่มมีความสุขแล้ว จึงอยากให้คนอื่นได้มีความสุขเหมือนตนบ้าง
ยามยากจนอาจต้องผจญกับความขัดสนคับแคบ จึงไม่อาจให้ความสุขหรือสิ่งใดแก่ใครได้ แต่ต่อมาเริ่มร่ำรวยมีความอุดมสมบูรณ์ไม่มีความขาดแคลนสิ่งใด จึงปรารถนาจะเผื่อแผ่ความสุขและเสียสละวัตถุสิ่งของออกไปเพื่อให้คนอื่นคลายจากความทุกข์ลำเค็ญ นี้คือวิถีแห่งความเป็นคนยอดคน
เมื่อหัวใจยังขาดแคลนความรัก หัวใจยังไม่มีกำลังพอที่จะเสียสละและแบ่งปันความสุขให้แก่ใคร จงยอมรับความจริงแล้วทำอะไรเพื่อตัวเองให้มีความสุขไปก่อนย่อมไม่มีใครว่าอะไร เพราะผู้คนส่วนใหญ่ในโลกก็ย่อมพากันปฏิบัติหรือเป็นเช่นนั้นกันอยู่แล้ว แต่เมื่อเริ่มมีความสุขพอสมควรแล้วก็อย่าลืมเสียสละให้กว้างออกไป ชีวิตจึงจะอบอุ่นร่มเย็นและมีความหมายกว่าการมีความสุขแคบๆแค่ครอบครัวของเรา
สำหรับหัวใจที่เปี่ยมด้วยความรักและพลังสร้างสรรค์ จงบากบั่นหาความสุขจากการได้อุทิศตนและเสียสละต่อไปด้วยหัวใจที่ไม่รู้จักย่อท้อ สิ่งนี้ย่อมเป็นพรอันยิ่งใหญ่ที่เหนือกว่าพรใดๆ เพราะแสดงถึงความเป็นผู้มีหัวใจได้เข้าถึงสายธารอันยิ่งใหญ่คือ “ความรักคือการให้” อันน้อยนักที่คนทั่วไปจะเข้าถึง จงสำนึกขอบคุณต่อสรวงสวรรค์และสรรพสิ่ง ที่ได้เมตตาให้เราเป็นคนหนึ่งที่มีสิทธิได้รับพรอันวิเศษนี้
ผู้ที่ทำสิ่งใดด้วยความรัก ย่อมเป็นนักเสียสละโดยธรรมชาติ ไม่ต้องการคำประกาศ ไม่เคยสนใจหรือใส่ใจแม้แต่คำว่า “เสียสละ”ด้วยซ้ำ
เพราะเหตุที่ไม่ค่อยคิดว่าตัวเองได้เสียสละสิ่งใดเพื่อใครนี้เอง เขาจึงอุทิศตนและเสียสละได้เรื่อยไปอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย แต่ละวันชีวิตจึงอิ่มเย็นด้วยความสุขและปลื้มปีติในสิ่งที่ได้ทำลงไป
หัวใจของเขาจึงยิ่งใหญ่และกลายเป็นนักเสียสละที่แท้จริง ที่เต็มเปี่ยมด้วยความรักและความเบิกบาน โดยไม่ต้องอาศัยให้ใครมาชื่นชมหรือกล่าวขานว่าเป็นนักเสียสละแต่อย่างใด
ดาบสนิรนาม
๕ มิถุนายน ๒๕๕๗