ชัยชนะที่ปราชัย
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
ชัยชนะที่ปราชัย
เมื่อประมาณ ๓๐๐ ปีก่อนคริสตวรรษ มีกษัตริย์ของกรีกพระนามว่าฟิรุสทำสงครามกับโรมัน ทั้งสองฝ่ายต่างระดมสรรพกำลังทั้งทหาร เสบียงและอาวุธเข้าห้ำหั่นกัน ท้ายที่สุดโรมันก็แพ้แก่กรีกด้วยความย่อยยับแทบจะล่มสลายเพราะสูญเสียทหารและทุกสิ่งไปในการสงคราม ฝ่ายกรีกเองแม้จะได้ชื่อว่าเป็นผู้มีชัยชนะ แต่บ้านเมืองก็แทบไม่เหลืออะไรเลยเหมือนกัน
มีบุคคลหนึ่งได้เข้าไปแสดงความยินดีต่อกษัตริย์ฟิรุส พร้อมทั้งสรรเสริญเยินยอในพระปรีชาสามารถในการทำสงครามของกษัตริย์กรีกผู้ยิ่งใหญ่ที่เอาชนะโรมันได้ในที่สุด
กษัตริย์ฟิรุสผู้เพิ่งกำชัยชนะได้หมาดๆ ได้ตรัสตอบคนผู้นั้นว่า "หากต้องทำสงครามต่อไปอีกเพียงครั้งเดียว เราก็จะพ่ายแพ้แก่โรมัน เพราะตอนนี้เราเองก็แทบไม่เหลืออะไรเหมือนกัน นี่คือชัยชนะที่ปราชัยโดยแท้ เป็นการชนะที่ไม่ต่างอะไรกับการเป็นผู้แพ้ เพราะทั้งกำลังทหารและทรัพย์สมบัติที่เคยมีมากมาย แต่บัดนี้ได้จมหายไปกับสงครามและการต่อสู้จนแทบเหลือแต่ตัว เราเองก็คือผู้แพ้คนหนึ่งเหมือนกัน"
การทำอะไรเพื่อมุ่งเอาชนะโดยขาดเหตุผล ยอมทุ่มเทหรือสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างลงไป ขอเพียงอย่างเดียวให้ตนเอาชนะอีกฝ่ายให้ได้เท่านั้น ในที่สุดก็จะกลายเป็นชัยชนะที่เต็มไปด้วยความเสื่อมโทรมทางจิตใจและเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ไม่หลงเหลือสิ่งใดให้ชื่นใจและสมหวังดังที่เคยปรารถนาไว้ สิ่งที่ได้มาจะเป็นเพียงการได้ชื่อว่าชนะเขาได้เท่านั้น แต่จะไม่หลงเหลือความภาคภูมิใจในภายหลัง จะมีชีวิตอยู่ด้วยความชอกช้ำใจในบั้นปลาย ชัยชนะเช่นนั้นจึงไร้เกียรติและไร้ความหมาย
ในขณะเดียวกัน บางคนนั้นเหมือนกับเป็นผู้พ่ายแพ้ แต่กลับชนะใจของบุคคลทั้งหลายเพราะได้ฝากลายการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยสปิริตและรักษาคงไว้ได้ซึ่งคุณธรรม บุคคลเช่นนั้น แม้จะได้ชื่อว่าพ่ายแพ้ในเกมการต่อสู้ ชื่อของบุคคลนั้นก็ย่อมอยู่ในใจของศัตรูและผู้คนที่รับรู้ตลอดไป
ชัยชนะที่ขาวสะอาดและสง่างาม ย่อมเกิดจากการต่อสู้ที่เคารพและดำเนินไปตามกติกาอย่างเต็มที่และเต็มฝีมือเท่านั้น หากการต่อสู้และชัยชนะเกิดจาการการใช้เล่ห์เหลี่ยมปราศจากคุณธรรม ชัยชนะที่ได้มานั้นย่อมเกิดความอดสูใจในภายหลังและแพ้ใจตัวเอง
การมุ่งเอาชนะโดยขาดสปิริตและไร้เกียรติยศเช่นนี้นั้น ที่ท่านเรียกว่า "แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร" ตามสุภาษิตที่มีมาแต่โบราณ
ผู้ที่พ่ายแพ้แต่รักษาคุณธรรมไว้ได้ ย่อมได้ชื่อว่าเป็นพระ เพราะเป็นผู้ชนะใจของตนเองได้ ส่วนผู้ชนะที่ปราศจากคุณธรรมและไร้ซึ่งน้ำใจ จึงเป็นมาร เพราะพ่ายแพ้ต่ออำนาจของกิเลสที่ท่วมทับอยู่ภายในหัวใจของตน
การมุ่งเอาชนะผู้อื่นโดยไม่สนใจว่าวิธีการจะผิดจะถูกตามทำนองคลองธรรมหรือไม่ ส่วนใหญ่เกิดจากใจที่มีปมด้อยและไปเผลอสติไปลงทะเบียนเรียนใน "วิชาริษยาวิทยา" อันเป็นวิชาฝ่ายมาร
วิชานี้เป็นวิชาที่แปลก เพราะยิ่งเรียนยิ่งแตกฉานเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ตัวเองตกต่ำและจมลงไปเท่านั้น ดังนั้น ผู้เป็นวิญญูชนทั้งหลาย พระพุทธองค์ท่านจึงทรงสอนให้ร่ำเรียนวิชา "มุทิตาวิทยา" เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้เผลอไปเรียนวิชาต้องห้าม อันจะทำให้ชีวิตของตนตกต่ำลงในบั้นปลาย
ชัยชนะที่เกิดจาการใช้กำลังเข้าบังคับข่มเหงเพราะตนเองอยู่ในฐานะที่ได้เปรียบกว่า แม้จะได้ชัยชนะนั้นมา แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นชัยชนะที่ปราชัย เพราะไม่สามารถพิชิตหัวใจของอีกฝ่ายหนึ่งได้
ชายหนุ่มที่ไม่สามารถเอาชนะใจหญิงสาว แต่ใช้เล่ห์เหลี่ยมล่อลวงหรือใช้เรี่ยวแรงในฐานะเป็นผู้มีเพศที่แข็งแรงและเหนือกว่า เขาไม่สามารถครอบครองหัวใจแม้จะได้ตัวเธอมา ก็ได้ชื่อว่า เป็นชัยชนะที่ปราชัย เพราะทั้งขาดความมั่นใจทั้งไม่หลงเหลือความภาคภูมิใจ ภายในก้นบึ้งของหัวใจย่อมมีแต่ปมด้อยและรู้สึกว่า ตนเองตกอยู่ในสภาพของผู้พ่ายแพ้ตลอดเวลา
ชัยชนะใดที่เกิดจากการใช้อำนาจโดยปราศจากความรักความเมตตา ชัยชนะนั้นย่อมไม่ยั่งยืนถาวรอยู่นานนัก ในที่สุดก็ต้องพ่ายแพ้ต่อทุกสิ่งและอาจยับเยินยิ่งกว่าในภายหลัง
กษัตริย์ฟิรุสแห่งกรีกกว่าจะทรงค้นพบว่า เพราะคำนึงถึงแต่การมุ่งเอาชนะต่อกองทัพของโรมัน จนลืมไปว่าประชาชนและทหารของแต่ละฝ่ายต้องบาดเจ็บล้มตายเป็นภูเขาเลากา และต้องทุกข์ยากลำบากสักเพียงใด อันเป็นชัยชนะที่ไร้ความหมายและลืมหลักเมตตาธรรมที่จะมอบให้แก่ไพร่พลเมือง ที่ต้องมาล้มตายเพื่อเซ่นไหว้ชัยชนะของพระองค์เพียงคนเดียว ก็จนกระทั่งวันสุดท้ายที่พระองค์แทบไม่หลงเหลืออะไรอีกแล้ว มีเพียงแผ่นดินที่เต็มไปด้วยกองซากศพและทหารที่บาดเจ็บเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
พระองค์จึงรู้สึกว่า นี้คือชัยชนะที่เป็นความปราชัยมากกว่า หากพระองค์ยอมพ่ายแพ้เพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนพลเมืองให้ดำรงต่อไปได้ ความพ่ายแพ้เช่นนั้นหากพระองค์สามารถย้อนคืนกลับไปเลือกได้อีกครั้ง พระองค์จะขอเป็นผู้พ่ายแพ้ที่มอบความรักความรักความเมตตาให้แก่ชาวประชามากกว่า เพราะการยอมพ่ายแพ้เช่นนั้นย่อมนำมาซึ่งความภาคภูมิใจและเต็มไปด้วยปีติแห่งศรัทธา ยิ่งกว่าเพียงแค่การได้มาซึ่งชัยชนะที่ปราชัยอันน่าอดสูของพระองค์
ความรักต่างหาก ที่จะนำชัยชนะอันแท้จริงมาสู่ชีวิต ความรักคือหนทางอันเที่ยงแท้แน่นอนที่สุดในการที่จะชนะทุกสิ่งและครอบครองสิ่งทั้งมวลในโลก
ชัยชนะที่อาศัยการบังคับข่มเหงด้วยอาวุธหรือกำลัง หรือการเอาชนะด้วยการหักหลังด้วยเล่ห์เหลี่ยมกลโกงต่อฝ่ายตรงข้าม มักเป็นชัยชนะที่จบลงและนำไปสู่ความปราชัยพ่ายแพ้ในบั้นปลาย
แต่ความรักย่อมมอบชัยชนะที่ยิ่งใหญ่และอุดมด้วยความหมาย โดยไม่มีการกลับไปพ่ายแพ้อีก ผู้ที่หัวใจเต็มเปี่ยมด้วยความรักเท่านั้น ที่จะได้รับพรแห่งสรวงสวรรค์และครอบครองชัยชนะที่แท้จริง
ความรักเริ่มต้นด้วยการยอมศิโรราบ แต่จบลงด้วยชัยชนะ ความรักมาจากหัวใจที่ไม่ต้องการชัยชนะ แต่กลับได้ชัยชนะอย่างเด็ดขาดและสง่างามไปตลอด
ผู้คนในโลกพยายามจะมีชัยกลับล้มเหลว แต่ผู้ไม่เคยปรารถนาจะมีชัยเหนือใคร กลับคือผู้ที่กำชัยชนะไปตลอด
ผู้ที่พร้อมจะเป็นผู้พ่ายแพ้และยอมศิโรราบต่อทุกสรรพสิ่ง กลับเป็นผู้ได้ครอบครองความรักอย่างแท้จริง
ชีวิตของบุคคลเช่นนี้นั้นกลับชนะต่อทุกสิ่งและไม่รู้จักการปราชัยอีกเลย
ดาบสนิรนาม
๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗