เดือนหงายกลางป่า
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
เดือนหงายกลางป่า
ท่ามกลางป่าอันหนาทึบ ทางเดินที่แทบไม่เป็นทางเดิน มองไปข้างหน้ามีแต่ป่าและเถาวัลย์อันรกเลื้อยระเกะระกะ ในท่ามกลางขุนเขาอันน่าหวาดหวั่นต่ออันตรายและมองไปรอบทิศไม่มีเส้นทางใดปลอดโปร่งแม้แต่น้อย
การเดินทางอันเต็มไปด้วยความยากลำบากและเหนื่อยล้า ที่มีแต่ความหนาทึบของป่าตลอดทั้งวัน ความมืดแห่งค่ำคืนได้เริ่มคืบคลานเข้ามาเยือน มองไปทางไหนยิ่งน่าหวาดหวั่นและวังเวงกว่าตอนกลางวันหลายเท่านัก
ฉับพลันนั้นเอง ดวงจันทร์ก็ส่องแสงตระการตาขึ้นมาจากขอบฟ้าแห่งทิศตะวันออก ความอบอุ่นใจได้เกิดขึ้น เพราะอานุภาพแห่งแสงสว่างดวงกลมโต ที่ส่องแสงนวลใยปลอบประโลมโลกหล้าในยามนี้
เส้นทางชีวิตที่ก้าวเดิน แม้จะเต็มไปด้วยความลำบากและขวากหนาม บางครั้งช่างดูเหมือนตีบตันและมืดตื้อไปทุกทิศทาง หากไม่ย่อท้อ พยายามแข็งใจก้าวเดินต่อไป แสงสว่างแห่งชีวิตอาจเกิดขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด เหมือนเดือนหงายที่เกิดขึ้นกลางป่าก็ได้
อย่าเอาแต่ก้มหน้ามองพื้นดินหรือเอาแต่มองดูป่าที่อยู่ตรงหน้าด้วยความท้อแท้ จงมีความมั่นคงในพลังแห่งศรัทธาไว้เสมอว่า แม้ป่าจะมืดทึบสักเพียงใด ข้างบนศีรษะก็ยังมีเดือนหงายคอยเป็นเพื่อนปลอบประโลมและคอยส่องทางให้ก้าวเดินเสมอ
หนทางข้างหน้าแม้จะดูมืดมน แต่หากเงยหน้ามองขอบฟ้าสักนิด อาจพบกับแสงสว่างแห่งดวงจันทร์ที่คอยจ้องมองและคอยให้กำลังใจเราอยู่ก็ได้ จงอย่าท้อแท้ จงก้าวเดินต่อไปทีละก้าวอย่างมั่นคง
มีบทกวี "เดือนหงายกลางป่า" ที่แต่งโดย รังสิต จงฌานสุทโธ ซึ่งแต่งไว้สมัยหลายสิบปีผ่านมาแล้ว แม้ผู้แต่งบทกวีบทนี้จะแต่งขึ้นมาด้วยแรงบันดาลใจอันเกิดจากอุดมการณ์บางอย่างในยุคสมัยนั้น แต่ก็แฝงด้วยธรรมะและสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้คนทั่วไปได้อย่างดี เป็นบทกวีที่สละสลวยและไพเราะมาก จึงขอนำมาถ่ายทอดและเผยแผ่ต่อทุกคนในยามนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ
..โอ้เดือนหงายกลางป่า สาดแสงส่องมาอาบเงื้อมผาเด่นไกล สง่าอยู่เหนือพงไพร
มั่นคงแกร่งไกร ทายท้าทะนง
เสียงเรไรแว่วหวาน ดังเพลงขับขานกล่อมแคว้นแดนดง น้ำค้างเผาะผล็อยย้อยลง
ต้องใบไม้พรายแสงเย็นตา
เขตป่าเขาคือเพื่อน แมกไม้ดั่งเรือนเหล่านักรบประชา จิตเปี่ยมล้นศรัทธา
งามยิ่งภูผาอาบแสงเดือนผ่อง
แสนดวงดาวพร่างพร้อย เหมือนดั่งเราร้อยร่วมใจปรองดอง
เนื้อและเลือดหลั่งล้นเนืองนอง อาบดินทองซาบซึ้งความเป็นไท
เสียงก้องป่า ดังพายุโหมฟ้าเฟือนดินไหว ประกาศความมั่นใจ
เชิดหน้าสดใสหยัดเย้ยภัยพาล
ม่านหมอกแม้มืดมัว มิเคยหวั่นกลัวยืดเยื้อยาวนาน
แสงศรัทธาตระการ โลมใจชื่นเหมือน....เดือนหงายกลางป่า.
( รังสิต จงฌานสิทโธ )
แม้มรสุมแห่งชีวิตจะหนักหนาสักเพียงใด แม้เส้นทางชีวิตจะมืดทึบอยู่เบื้องหน้า จงรวบรวมกำลังใจและปลุกปลอบตัวเองให้เข้มแข็งขึ้นมา แล้วมองขึ้นไปบนท้องฟ้า จะเห็นดวงจันทราลอยเด่นเป็นสง่า คอยส่องแสงสว่างนำทางให้เราก้าวเดินต่อไป
แม้ป่ารอบทุกทิศทางจะมืดมนและน่าหวาดหวั่นสักเพียงใด แต่โปรดได้จำไว้ว่า บนท้องฟ้า ยังมีเดือนหงายอยู่ท่ามกลางป่าได้เสมอ ขอเพียงให้ใจดวงนี้จงเปี่ยมล้นด้วยศรัทธาไม่ขาดสาย
ขอเพียงมีสติและอดทนอีกนิดเดียว เราก็จะเดินทะลุป่า ออกสู่ทุ่งกว้างอันปลอดโปร่งและสว่างไสว และก้าวถึงหลักชัยตามที่ใจของเราปรารถนาแล้ว
คุรุอตีศะ
๒๓ เมษายน ๒๕๕๗