เทพธิดาแห่งท้องทะเล

เทพธิดาแห่งท้องทะเล

 

                 วีรสตรีย่อมเกิดท่ามกลางวิกฤตการณ์  คนที่มีน้ำใจเด็ดเดี่ยวกล้าหาญเสียสละที่จะกลายเป็นวีรบุรุษ วีรสตรีนั้น  หากไม่มีเหตุการณ์อันสำคัญเกิดขึ้น  เขาหรือเธอจะเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ผู้คนทั้งหลายจะไม่มีโอกาสได้พบน้ำใจอันงดงามและความเสียสละของบุคลนั้นเลย

 

                 เหตุการณ์หรือสถานการณ์อันฉุกเฉิน ที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายขณะนั้นนั่นเองที่สร้างความเป็นวีรบุรุษ วีรสตรีขึ้นมา  โดยที่บุคคลนั้นไม่เคยคาดคิดมาก่อนแม้แต่น้อยว่าตนเองจะได้รับการยกย่องสรรเสริญจากผู้คนทั้งหลายเช่นนั้น

 

               คนที่กลายเป็นวีรบุรุษ วีรสตรี เขาจะไม่เคยปรารถนาอยากเป็นวีรบุรุษ วีรสตรีมาก่อน  แต่สถานการณ์และมโนธรรมหรือคุณธรรมประจำใจ จะทำให้เขาหรือเธอสละได้แม้ชีวิตของตนเองเพื่อความอยู่รอดของคนอื่น  นี้คือจิตใจของคนที่จะเกิดเป็นเทพเจ้าในสรวงสวรรค์  อันเป็นจิตใจที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่ามนุษย์สามัญทั่วไป

 

              ปาร์ค จี ยอง  วัย  ๒๒  ปี เป็นพนักงานสาวบนเรือเซวอล ของประเทศเกาหลีใต้  ซึ่งอับปางลงสู่ท้องทะเลพร้อมกับผู้โดยสาร ๓๐๐ คนที่ติดอยู่ในเรือ จากจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด    ๔๗๕  คน ไม่นับลูกเรือ  เมื่อวันที่  ๑๖  เมษายน  ๒๕๕๗

 

               ในขณะที่กัปตันเรือและพนักงานอีกหลายคนทิ้งเรือเซวอล     หนีขึ้นเรือกู้ภัยเพื่อเอาชีวิตรอด โดยปล่อยผู้โดยสารซึ่งเป็นนักเรียนส่วนใหญ่ให้เผชิญกับความตายอย่างสิ้นหนทางอยู่ในเรือ   ปาร์ค  จี  ยอง  เป็นพนักงานคนเดียวที่เป็นผู้มีน้ำใจงามและกล้าหาญยิ่งนัก เธอได้ทำหน้าที่ของตนอย่างสุดชีวิต  ในการช่วยพาผู้โดยสารที่ติดอยู่ในเรือให้หนีรอดออกมาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยหรืออ่อนล้า

 

                  เมื่อเรือเอียงและกำลังจมลงทะเล  เธอได้เข้าช่วยเหลือผู้โดยสารอย่างเด็ดเดี่ยวกล้าหาญและกุลีกุจอ  ทั้งวิ่งไปหาเสื้อชูชีพซึ่งอยู่อีกชั้นของเรือ เพื่อเอาไปแจกเด็กนักเรียนและช่วยคนที่ติดค้างอยู่ในห้องโดยสาร

 

               ผู้โดยสารคนหนึ่งซึ่งรอดชีวิตมาจากการช่วยเหลือของเธอ ได้ถามเธอในเวลาฉุกละหุกเช่นนั้นว่า “ทำไมปาร์คจึงไม่ใส่เสื้อชูชีพ?”

 

             “เรามีหน้าที่ต้องช่วยคนอื่นๆก่อนและจะเป็นคนสุดท้ายที่ใส่เสื้อชูชีพ” พนักงานสาววัย ๒๒ ปี ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ  แสดงให้เห็นว่าเธอเป็นผู้มีขวัญกำลังใจ มีสมาธิอย่างเต็มเปี่ยม สติสัมปชัญญะของเธอในขณะนั้นดีเยี่ยม  เธอปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริงในขณะนั้นทุกลมหายใจ

 

              จะมีใครสักกี่คนในโลกนี้จะสามารถมีสติสัมปชัญญะและมีสมาธิเท่ากับเธอ ในขณะที่ความตายมีอยู่เฉพาะหน้าในขณะนั้น  เธอก็ยังคิดถึงความอยู่รอดของตัวเองเป็นคนสุดท้าย  นี้คือการปฏิบัติธรรมที่ยิ่งใหญ่ ที่มีแต่หัวใจพระโพธิสัตว์หรือพระอริยบุคคลในร่างมนุษย์เท่านั้นจึงมีหัวใจที่ปราศจากความเห็นแก่ตัวและสูงส่งเช่นนี้ได้

 

               เมื่อเรือเซวอลจมสู่ท้องทะเล ปาร์ค  จี  ยอง เป็น ๑ ใน  ๓๐๐ กว่าชีวิตที่ติดอยู่ในเรือ  หน่วยกู้ภัยพบศพเธอและผู้โดยสารคนอื่นๆในเวลาต่อมา  ร่างของ “ปาร์ค”ซึ่งไร้ลมหายใจ ได้ถูกนำไปตั้งเพื่อบำเพ็ญพิธีที่เมืองอินซอนอันเป็นบ้านเกิดของเธอ

 

              ระหว่างพิธีศพ มีชายผู้หนึ่งซึ่งมีผ้าพันแผลโพกอยู่บนศีรษะ เขาเดินตรงไปยังห้องจัดงานศพ  ญาติของ “ปาร์ค” ซึ่งไม่เคยรู้จักชายผู้นั้นมาก่อนได้ทักทายและสอบถามเขา เขาบอกว่าเป็นผู้โดยสารในเรือเซวอลซึ่งได้รับการช่วยเหลือจาก “ปาร์ค”แล้วรอดชีวิตมาได้

 

            “ขณะเกิดเหตุ เรือกำลังจม พยายามหนีออกมา  ขณะนั้นศีรษะของผมถูกกระแทกด้วยของแข็งเลือดไหล  ปาร์คได้ยื่นผ้าขนหนูซับเลือดให้  ผมเป็นหนี้บุญคุณของเธอ” ชายผู้นั้นบอกเหตุผลของการมา  เพียงสุดสิ้นเสียงอธิบายของเขา  เสียงร่ำไห้ก็ดังระงมไปทั่วงานพิธีในวันนั้น

 

                ครอบครัวของปาร์ค จี ยอง ประสบกับความผันผวนแห่งโชคชะตา เมื่อผู้เป็นบิดาได้จากไปอย่างกะทันหันเมื่อสองปีก่อน  ปาร์คได้ตัดสินใจออกจากการเรียนในวิทยาลัยทั้งๆที่ญาติพร้อมจะออกค่าใช้จ่ายในการเรียนให้  เพราะเธอเห็นว่า การรับผิดชอบต่อครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่าการเรียน

 

               เธอผันชีวิตตัวเองจากการเป็นนักศึกษาในวิทยาลัย ไปเป็นพนักงานเรือข้ามฟากเมื่อปี ๒๕๕๕  ตั้งใจทำงานอย่างบากบั่นอดทน  จนได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นพนักงานบนเรือเซวอล ซึ่งถือเป็นเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ เพราะสามารถบรรทุกผู้โดยสารสูงสุดได้ถึง ๙๒๑ คน

 

              ณ  บ้านหลังเล็กๆอันเป็นบ้านเกิดของเธอ  คุณยายของเธอได้กล่าวต่อแขกเหรื่อซึ่งเป็นคนต่างถิ่นไม่เคยรู้จักมาก่อนว่า “หลานสาวคนนี้ เป็นคนที่มีความรับผิดชอบและมีจิตใจที่ดีงามมาตลอด”

 

              พวงหรีดอันประดับด้วยดอกลิลลี่สีขาว อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความตายและอาลัย วางเรียงเป็นแถวยาวในห้องพิธีศพ ณ เมืองอินซอน  พวงหรีดเหล่านี้ ล้วนเป็นพวงหรีดของคนต่างถิ่นที่ไม่เคยรู้จักปาร์คมาก่อน และเธอเองก็ไม่เคยรู้จักคนเหล่านี้มาก่อนเช่นกัน  ส่วนหนึ่งของข้อความที่ประดับอยู่บนพวงหรีดเหล่านั้น  ต่างจากพวงหรีดทั้งหลายในงานทั่วไป

 

              “เราจะไม่มีวันลืมน้ำใจอันงดงาม”

 

              “เราจะระลึกถึงความเสียสละอันยิ่งใหญ่”

 

               “วีรสตรีของเรา”

 

                และที่สำคัญ  ในตอนนี้สื่อออนไลน์ ล้วนมีแต่เสียงสดุดียกย่องบูชาความดีของปาร์คดังกระหึ่มไปทั่วโลกพร้อมกับเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีใต้ มอบเหรียญรางวัลของการทำคุณงามความดีของพนักงานสาวผู้นี้ให้แก่วงศ์ตระกูลและเพื่อเป็นเกียรติยศแก่ประเทศสืบไป

 

                  ถ้าหากเราอยากทราบว่า “ดวงจิตชนิดใดที่ละจากร่างกายของความเป็นมนุษย์แล้ว ได้ไปอุบัติเป็นเทพเจ้าในสรวงสวรรค์?”  พึงอนุมานเอาจากน้ำใจอันเสียสละและเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญของ “ปาร์ค จี ยอง” นี้แหละที่จะเป็นตัวอย่างได้อย่างชัดเจนจากเรื่องจริงในยุคสมัยปัจจุบัน ที่เราทุกคนได้รู้จักเรื่องราวของเธอด้วยตัวของเราเอง โดยไม่ต้องอาศัยตำนานหรือนวนิยายแต่อย่างใด

 

              การได้รู้เรื่องราวของเธอหรือการคิดถึงคุณงามความดีของบุคคลเช่นนี้แหละคือ “เทวตานุสติ” ที่ท่านกล่าวไว้ในอนุสติ ๖ คือ พุทธานุสติ  ธัมมานุสติ  สังฆานุสติ  สีลานุสติ  จาคานุสติ และเทวตานุสติ  ตามที่พระคัมภีร์วิสุทธิมรรคท่านกล่าวถึง กรรมฐาน ๔๐  ประเภท

 

               “เทวตานุสติ”  คือการระลึกถึงคุณงามความดีของบุคคล อันจะนำไปสู่การบังเกิดเป็นเทวดา  การคิดถึงความกล้าหาญและเสียสละของปาร์ค จี ยอง ย่อมทำให้จิตใจของเราพลอยมีกำลังใจและเกิดความสูงส่งดีงามตามเธอไปด้วย  เธอจึงไม่ใช่เพียงการเป็นวีรสตรีของโลกมนุษย์เท่านั้น   แต่จิตวิญญาณที่สูงส่งในระดับนี้ เธอย่อมไปอุบัติเป็นเทพเจ้าอย่างแน่นอน

 

               ขออนุโมทนาในบุญกุศลที่เธอเสียสละชีวิตของเธอ ในการช่วยเหลือผู้คนให้รอดชีวิตออกมาได้ถึง ๑๘๗ คน  แม้ว่าเธอจะจบชีวิตไปพร้อมกับอีก ๓๐๐  กว่าชีวิต  แต่เธอก็ยืนหยัดในการรักษาหน้าที่อย่างเด็ดเดี่ยวกล้าหาญและเสียสละแม้ลมหายใจสุดท้าย แม้บุรุษตั้งร้อยคนก็ยังไม่สามารถมีความกล้าหาญและเสียสละเท่ากับเธอเพียงคนเดียว 

 

                วัยสาวแม้เพียงอายุ ๒๒ ปีของเธอ สุดแสนจะยิ่งใหญ่ที่แม้คนมีอายุ ๘๐  ปีอีกร้อยคนรวมกันก็ยังไม่สามารถยิ่งใหญ่ได้เท่ากับชีวิตยี่สิบสองปีที่เธอใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้  นี้คือ "ทานปรมัตถบารมี" ที่เธอได้บำเพ็ญไว้แล้วเยี่ยงพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย

 

                สติสัมปชัญญะของเธอช่างยอดเยี่ยม  สมาธิและปัญญาของเธอโดยมุ่งทำหน้าที่ในการช่วยเหลือชีวิตคนอย่างไร้อัตตาในขณะนั้น  ช่างเป็นการปฏิบัติธรรมอันสูงส่งและยิ่งใหญ่ ที่นักพรต นักบวชอีกมากมายทั้งหลายในโลก ยังต้องคารวะและยอมแพ้ต่อเธอด้วยความปลื้มปีติและยินดี

 

             แม้ไม่ต้องมีคำอำนวยพรใด  จิตวิญญาณของเธอย่อมสถิตอยู่ในสรวงสวรรค์อย่างไม่มีสิ่งใดขวางกั้นได้เลย   คุณความดีและบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ที่เธอบำเพ็ญ  ย่อมเหนือกว่าพรใดๆบนโลกมนุษย์

 

            “ปาร์ค จี  ยอง”  จะเป็นที่สดุดีและเป็นที่กล่าวขานทั่วไป  ในกาลข้างหน้าวีรกรรมของเธอ จะทำให้ชนรุ่นหลังบูชาเธอไม่ใช่เพียงในฐานะวีรสตรีแค่นี้  แต่คนรุ่นหลังจะกราบไหว้บูชาเธอในฐานะเทพีผู้ศักดิ์สิทธิ์ผู้ช่วยปกป้องคุ้มครองภัย

 

           ผู้คนจะพากันยกย่องเธอว่า “ปาร์ค  จี  ยอง  เทพธิดาแห่งท้องทะเล” ที่ผู้คนจะจุดธูปขอพรให้เธอคุ้มครองก่อนออกทะเลทุกครั้งในกาลข้างหน้า

 

             เธอจะเป็นทั้งเทพเจ้าในสรวงสรรค์และเป็นเทพเจ้าบนโลกมนุษย์ ซึ่งมหาชนจะพากันเลื่อมใสว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ในฐานะเทพเจ้าผู้คุ้มครองมหาสมุทรและท้องทะเล ของเหล่ามนุษย์บนโลกใบนี้ไปตราบนานเท่านาน

 

 

                                                                                      คุรุอตีศะ

                                                                              ๒๒  เมษายน  ๒๕๕๗