ก้าวไปอย่างเข้มแข็ง
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
ก้าวไปอย่างเข้มแข็ง
แม้ชีวิตของบางคนในขณะนี้ อาจเหมือนมีเมฆดำทะมึน และสายฟ้าแปลบปลาบอันน่ากลัว ชวนให้เกิดความหวาดหวั่นรออยู่เบื้องหน้า ในเมื่อเราจำต้องเดินทาง ก็ขอจงก้าวเดินต่อไปด้วยความมีสติมั่นและศรัทธาต่อตัวเอง
จงก้าวเดินไปอย่างมั่นคง แม้จะรู้ทั้งรู้ว่ามีพายุฝนรออยู่ นี้คือวิถีแห่งผู้กล้าและเป็นธรรมดาของมนุษย์ผู้มีชีวิตที่เข้มแข็งทุกคน
ไม่มีใครอยากเผชิญต่อพายุและมรสุม แต่เมื่อตัดสินใจเลือกเดินบนเส้นทางสายนี้ เราต้องก้าวเดินไปได้เสมอ ทั้งในยามท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งแจ่มใส และในยามที่พายุโหมกระหน่ำพัดผ่านเข้ามา
เมื่อไม่มีที่จะหลบฝน ไม่มีทางใดที่จะหลีกเลี่ยง เราก็ต้องก้าวเดินไป แม้จะต้องเสี่ยงกับสายฟ้าที่กำลังแลบแปลบปลาบและพายุที่เต็มไปด้วยทั้งลมและฝนอันน่ากลัว
จงเปี่ยมด้วยศรัทธาไว้เสมอทุกลมหายใจ ในขณะที่ทุกย่างก้าวกำลังก้าวเดินไปในสายฝน จงดำรงสติมั่นและจงเปี่ยมด้วยขันติความอดทน อีกไม่นานสายฝนและพายุลมกระโชกก็จะผ่านพ้นไปแล้ว
เพียงกล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หวาดหวั่น เพียงเท่านั้นความสำเร็จและจุดหมายปลายทางก็รออยู่ข้างหน้าแล้ว แก่มนุษย์ผู้มีหัวใจเข้มแข็งทุกคน
เมฆดำทะมึน ลมพายุ สายฝน เป็นเพียงสิ่งมาทดสอบกำลังใจ ว่าเราจะยอมถอดใจหรือตัดสินใจก้าวเดินต่อไปด้วยหัวใจอันเต็มไปด้วยพลังแห่งศรัทธา
มนุษย์ผู้มีหัวใจเข้มแข็ง ย่อมไม่หวาดหวั่นและหมดกำลังใจเพียงแค่เห็นเมฆดำทะมึนที่มองเห็นอยู่เบื้องหน้า แต่จะรวบรวมกำลังใจของตัวเองให้กล้าแกร่งขึ้นมา แล้วมุ่งมั่นฟันฝ่าก้าวเดินไปทีละก้าวโดยไม่หวาดหวั่นต่ออุปสรรคขวากหนามและพายุร้ายใดๆ
จงตัดสินใจสูดลมหายใจให้เต็มปอด แล้วตัดสินใจเดินฝ่าพายุฝน แม้จะต้องเปียกโชกและเสี่ยงอันตราย วิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เราเกิดพลังในตัวเองอย่างยิ่งใหญ่ อย่างน้อยในครั้งต่อไป เราก็จะไม่กลัวพายุฝนเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว
ในท่ามกลางพายุลมฝนที่โหมกระหน่ำ ไม่ได้มีแต่ความน่ากลัวและความเปียกโชกอย่างที่เรานึกหวั่น แต่ในท่ามกลางสถานการณ์อันเปียกโชกและน่ากลัวนั้น เราย่อมได้รับพลังแห่งความชุ่มเย็นจากสายฝนอยู่ด้วยในตัว
หากไม่ยอมที่จะตัดสินใจเป็นผู้กล้า ในการที่จะเดินฝ่าพายุฝน เราจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสพลังแห่งความชุมเย็นจากสายฝน ซึ่งพลังแห่งความชุ่มเย็นนี้ ย่อมมีหรือสัมผัสได้เฉพาะผู้มีหัวใจที่แกร่งกล้าในการกล้าเดินฝ่าสายฝนเท่านั้น
ต้องยอมที่จะเปียกปอน เราจึงจะพบรสชาติแห่งความสุขในการอยู่ท่ามกลางสายฝน เราต้องกล้าเผชิญต่ออุปสรรคที่ดำทะมึนรออยู่เบื้องหน้า ความเป็นผู้มีหัวใจที่เข้มแข็งจึงงจะเกิดขึ้นมา และในชีวิตของคนๆหนึ่ง โอกาสในการที่จะได้เดินฝ่าพายุและสายฝน จนได้ซึมซับและสัมผัสกับความสุขและความชุ่มเย็นเช่นนั้น มิใช่จะมีได้ง่ายๆ
จงก้าวเดินไปข้างหน้า แม้ว่าจะมองเห็นเมฆดำทะมึนรออยู่ เพราะบางทีแม้จะมีเมฆดำดูน่ากลัว แต่ฝนก็ไม่ได้ตกให้เราต้องพบกับความเปียกปอนเสมอไปทุกครั้งก็มี
เมฆดำที่รออยู่ข้างหน้า บางครั้งก็เป็นเพียงมายามาสร้างความท้อแท้หวาดกลัวล่วงหน้า แต่พอถึงเวลาแห่งความเป็นจริงขึ้นมา เมฆที่ดำทะมึนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า กลับมีลมบนช่วยพัดพา และหอบเอาเมฆฝนที่กำลังตั้งเค้าลอยไปตกที่อื่น ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง
จงก้าวเดินไปด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง อย่าหวั่นเกรงและหวาดกลัวสิ่งที่อยู่ข้างหน้าจนเกินไป จงมั่นคงในพระรัตนตรัยและศรัทธาเชื่อมั่นในคุณความดีและบุญกุศลที่ตนเองบำเพ็ญ ธรรมย่อมคุ้มครองรักษาผู้ประพฤติธรรมเสมอ
เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นที่จะหลบเลี่ยงพายุฝน จงกล้าหาญในการเดินฝ่าสายฝนนั้นด้วยความมีสติและร่าเริง ความสุขและความชุ่มเย็นที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยในชีวิต อาจเกิดขึ้นกับชีวิตของเรา ในวันที่กล้าตัดสินใจเดินฝ่าสายฝนก็อาจเป็นได้
จงมั่นใจไว้ข้อหนึ่งว่า ในท่ามกลางพายุฝนที่น่ากลัวและโหมกระหน่ำ ย่อมมีความสุขและความชุ่มเย็นที่หาไม่ได้ในยามปกติ ซ่อนอยู่ในนั้นเสมอ
คุรุอตีศะ
๑๗ เมษายน ๒๕๕๗