ก้าวไปอย่างเข้มแข็ง

ก้าวไปอย่างเข้มแข็ง

 

 

                  แม้ชีวิตของบางคนในขณะนี้  อาจเหมือนมีเมฆดำทะมึน และสายฟ้าแปลบปลาบอันน่ากลัว ชวนให้เกิดความหวาดหวั่นรออยู่เบื้องหน้า  ในเมื่อเราจำต้องเดินทาง  ก็ขอจงก้าวเดินต่อไปด้วยความมีสติมั่นและศรัทธาต่อตัวเอง

 

                จงก้าวเดินไปอย่างมั่นคง  แม้จะรู้ทั้งรู้ว่ามีพายุฝนรออยู่  นี้คือวิถีแห่งผู้กล้าและเป็นธรรมดาของมนุษย์ผู้มีชีวิตที่เข้มแข็งทุกคน

 

                ไม่มีใครอยากเผชิญต่อพายุและมรสุม  แต่เมื่อตัดสินใจเลือกเดินบนเส้นทางสายนี้  เราต้องก้าวเดินไปได้เสมอ ทั้งในยามท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งแจ่มใส  และในยามที่พายุโหมกระหน่ำพัดผ่านเข้ามา

 

                เมื่อไม่มีที่จะหลบฝน  ไม่มีทางใดที่จะหลีกเลี่ยง เราก็ต้องก้าวเดินไป  แม้จะต้องเสี่ยงกับสายฟ้าที่กำลังแลบแปลบปลาบและพายุที่เต็มไปด้วยทั้งลมและฝนอันน่ากลัว

 

                จงเปี่ยมด้วยศรัทธาไว้เสมอทุกลมหายใจ  ในขณะที่ทุกย่างก้าวกำลังก้าวเดินไปในสายฝน  จงดำรงสติมั่นและจงเปี่ยมด้วยขันติความอดทน  อีกไม่นานสายฝนและพายุลมกระโชกก็จะผ่านพ้นไปแล้ว

 

               เพียงกล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หวาดหวั่น  เพียงเท่านั้นความสำเร็จและจุดหมายปลายทางก็รออยู่ข้างหน้าแล้ว  แก่มนุษย์ผู้มีหัวใจเข้มแข็งทุกคน

 

               เมฆดำทะมึน ลมพายุ สายฝน เป็นเพียงสิ่งมาทดสอบกำลังใจ  ว่าเราจะยอมถอดใจหรือตัดสินใจก้าวเดินต่อไปด้วยหัวใจอันเต็มไปด้วยพลังแห่งศรัทธา

 

              มนุษย์ผู้มีหัวใจเข้มแข็ง  ย่อมไม่หวาดหวั่นและหมดกำลังใจเพียงแค่เห็นเมฆดำทะมึนที่มองเห็นอยู่เบื้องหน้า  แต่จะรวบรวมกำลังใจของตัวเองให้กล้าแกร่งขึ้นมา  แล้วมุ่งมั่นฟันฝ่าก้าวเดินไปทีละก้าวโดยไม่หวาดหวั่นต่ออุปสรรคขวากหนามและพายุร้ายใดๆ

 

             จงตัดสินใจสูดลมหายใจให้เต็มปอด  แล้วตัดสินใจเดินฝ่าพายุฝน  แม้จะต้องเปียกโชกและเสี่ยงอันตราย  วิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เราเกิดพลังในตัวเองอย่างยิ่งใหญ่  อย่างน้อยในครั้งต่อไป  เราก็จะไม่กลัวพายุฝนเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว

 

            ในท่ามกลางพายุลมฝนที่โหมกระหน่ำ  ไม่ได้มีแต่ความน่ากลัวและความเปียกโชกอย่างที่เรานึกหวั่น   แต่ในท่ามกลางสถานการณ์อันเปียกโชกและน่ากลัวนั้น  เราย่อมได้รับพลังแห่งความชุ่มเย็นจากสายฝนอยู่ด้วยในตัว

 

              หากไม่ยอมที่จะตัดสินใจเป็นผู้กล้า ในการที่จะเดินฝ่าพายุฝน  เราจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสพลังแห่งความชุมเย็นจากสายฝน   ซึ่งพลังแห่งความชุ่มเย็นนี้  ย่อมมีหรือสัมผัสได้เฉพาะผู้มีหัวใจที่แกร่งกล้าในการกล้าเดินฝ่าสายฝนเท่านั้น

 

             ต้องยอมที่จะเปียกปอน  เราจึงจะพบรสชาติแห่งความสุขในการอยู่ท่ามกลางสายฝน  เราต้องกล้าเผชิญต่ออุปสรรคที่ดำทะมึนรออยู่เบื้องหน้า   ความเป็นผู้มีหัวใจที่เข้มแข็งจึงงจะเกิดขึ้นมา  และในชีวิตของคนๆหนึ่ง  โอกาสในการที่จะได้เดินฝ่าพายุและสายฝน  จนได้ซึมซับและสัมผัสกับความสุขและความชุ่มเย็นเช่นนั้น  มิใช่จะมีได้ง่ายๆ

 

             จงก้าวเดินไปข้างหน้า  แม้ว่าจะมองเห็นเมฆดำทะมึนรออยู่  เพราะบางทีแม้จะมีเมฆดำดูน่ากลัว  แต่ฝนก็ไม่ได้ตกให้เราต้องพบกับความเปียกปอนเสมอไปทุกครั้งก็มี

 

            เมฆดำที่รออยู่ข้างหน้า  บางครั้งก็เป็นเพียงมายามาสร้างความท้อแท้หวาดกลัวล่วงหน้า  แต่พอถึงเวลาแห่งความเป็นจริงขึ้นมา  เมฆที่ดำทะมึนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า กลับมีลมบนช่วยพัดพา และหอบเอาเมฆฝนที่กำลังตั้งเค้าลอยไปตกที่อื่น ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง

 

            จงก้าวเดินไปด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง  อย่าหวั่นเกรงและหวาดกลัวสิ่งที่อยู่ข้างหน้าจนเกินไป  จงมั่นคงในพระรัตนตรัยและศรัทธาเชื่อมั่นในคุณความดีและบุญกุศลที่ตนเองบำเพ็ญ  ธรรมย่อมคุ้มครองรักษาผู้ประพฤติธรรมเสมอ

 

            เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นที่จะหลบเลี่ยงพายุฝน  จงกล้าหาญในการเดินฝ่าสายฝนนั้นด้วยความมีสติและร่าเริง ความสุขและความชุ่มเย็นที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยในชีวิต  อาจเกิดขึ้นกับชีวิตของเรา ในวันที่กล้าตัดสินใจเดินฝ่าสายฝนก็อาจเป็นได้

 

             จงมั่นใจไว้ข้อหนึ่งว่า  ในท่ามกลางพายุฝนที่น่ากลัวและโหมกระหน่ำ   ย่อมมีความสุขและความชุ่มเย็นที่หาไม่ได้ในยามปกติ  ซ่อนอยู่ในนั้นเสมอ

 

 

                                                                                   คุรุอตีศะ

                                                                           ๑๗  เมษายน  ๒๕๕๗