ในความขุ่นก็มีความใส
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
ในความขุ่นก็มีความใส
ในท่ามกลางน้ำโคลนที่ขุ่นข้นข้างทาง ผู้คนต่างรังเกียจและขยะแขยงอยากหนีให้ไกลห่าง แต่หากเพ่งมองดูดีๆไม่มีอคติจนเกินไป เราสามารถมองเห็นความใสในท่ามกลางความขุ่นได้เหมือนกัน
ก่อนที่จะเป็นน้ำโคลนที่ขุ่นในวันนี้ แท้จริงแล้วก็เป็นน้ำที่ใสเย็นสะอาดมาก่อน ความขุ่นมาที่หลังความใส และเมื่อกาลเวลาผ่านไป ในบ่อหรือสระนั้นก็อาจมีน้ำใสมาทดแทน
แม้น้ำโคลนที่ขุ่นน่ารังเกียจ ก็อาจมองเห็นความใสอยู่ในนั้น เมื่อมีปัญญาแยกเอาดินเอาโคลนทิ้งไป น้ำนั้นก็จะกลายเป็นน้ำใสในทันที
หรือบางทีเราตักน้ำที่ขุ่นจากแม่น้ำลำคลองมาแท้ๆ เพียงนำเอาสารส้มมาแกว่งสักพัก ขุ่นตะกอนทั้งหลายก็ตกตะกอนนอนก้น ในที่สุดเราก็ได้น้ำใสมาใช้สอยตามต้องการ
สิ่งที่ดูเลวร้ายบางอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต หากเรามีสติเพ่งพินิจและรู้จักใช้ปัญญาเลือกสรร เราอาจพบเพชรพลอยอยู่ในกองขยะได้สักวัน ขอเพียงใจเรานั้นมีสติตั้งมั่นและมีความแยบคาย สิ่งที่ดูเลวร้ายทั้งหลาย อาจเป็นสาเหตุให้เราพบสิ่งใหม่ที่ดีกว่าก็ได้
อย่าจำนนว่าทำไมชีวิตนี้ช่างมีแต่โคลนและความขุ่น เมื่อมองให้ลึกซึ้งลงไป อาจพบความใสที่ซ่อนอยู่ในนั้นก็ได้ สิ่งเลวร้ายที่เราพบเจอแต่ละวัน เมื่อเราฟันฝ่าจนข้ามพ้นอุปสรรคที่ขวางกั้น หลังจากนั้นมักมีสิ่งดีๆติดตามมา
ในท่ามกลางภาระอันหนักหน่วง อาจเป็นเกียรติยศอันใหญ่หลวงติดตามมาในภายหลัง ในท่ามกลางความแร้นแค้นอันสาหัส อาจกลายเป็นเกียรติประวัติไว้เล่าขานอวดผู้คนในวันหน้า ในท่ามกลางการกลั่นแกล้งบีบคั้นบีฑา อาจนำพาชีวิตไปสู่ความเป็นผู้นำ
ในท่ามกลางการทรยศและหักหลัง อาจนำพาสู่ความมีชื่อเสียงอันโด่งดังในวันหน้า ในท่ามกลางการดูหมิ่นเหยียดหยามทั่วพารา อาจนำมาซึ่งเกียรติยศปรากฏไกล
อย่าได้ทอดอาลัยว่าไม่มีน้ำใสให้ใช้สอย ลองตั้งสติแล้วใช้สองมือน้อยๆแกว่งสารส้มให้เวลาอีกสักหน่อย น้ำใสสะอาดที่รอคอย จะค่อยๆพบได้ในท่ามกลางน้ำที่เคยขุ่นนั่นเอง
การรังเกียจและผลักไสน้ำโคลนไม่อยากเห็น ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆก็เป็นเช่นนั้น แต่สำหรับมนุษย์ผู้น่าอัศจรรย์ กลับสามารถเปลี่ยนน้ำที่เคยขุ่นนั้น ให้กลายเป็นน้ำใสได้ในภายหลังด้วยความอุตสาหะและพากเพียร
ใครๆก็ต้องการน้ำใสด้วยกันทั้งนั้น แต่ในยามที่พบแต่น้ำขุ่นไม่มีน้ำใสให้บริโภคกัน เราต้องใช้พรสวรรค์ในการเปลี่ยนน้ำที่ขุ่นอยู่นั้นให้เป็นน้ำใสแทน การทำได้เช่นนี้เป็นคุณสมบัติของผู้มีปัญญา
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า “บัณฑิตย่อมแสวงหาความสุขได้แม้ท่ามกลางความทุกข์” นี้คือคุณสมบัติอันยิ่งใหญ่ของมันสมองและหัวใจของคนผู้มีปัญญาโดยแท้
คนทั่วไปส่วนใหญ่ย่อมจำนนต่อความทุกข์ อุปสรรคและปัญหาที่ถาโถมเข้ามา แต่สำหรับบัณฑิตผู้มีปัญญา ย่อมแสวงหาความสุขและความดีงามของชีวิตได้ แม้จะพบกับมรสุมและอุปสรรคขวากหนามหนักหนาเพียงใดก็ตาม
ในยามใดที่ชีวิตประสบปัญหา จงนั่งลงตั้งสติพิจารณา พร้อมกับความเชื่อมั่นในหัวใจไว้เสมอว่า ในท่ามกลางน้ำขุ่นสักเพียงใด ย่อมจะมีน้ำใสอยู่ในนั้น เพียงเรากล้าที่จะกลั่นกรองน้ำที่กำลังขุ่นนั้นสักหน่อย เพียงไม่นานเราจะได้น้ำใสมาบริโภคด้วยความชื่นใจ
คุรุอตีศะ
๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗