ในความขุ่นก็มีความใส

ในความขุ่นก็มีความใส

 


               ในท่ามกลางน้ำโคลนที่ขุ่นข้นข้างทาง  ผู้คนต่างรังเกียจและขยะแขยงอยากหนีให้ไกลห่าง  แต่หากเพ่งมองดูดีๆไม่มีอคติจนเกินไป  เราสามารถมองเห็นความใสในท่ามกลางความขุ่นได้เหมือนกัน


              ก่อนที่จะเป็นน้ำโคลนที่ขุ่นในวันนี้  แท้จริงแล้วก็เป็นน้ำที่ใสเย็นสะอาดมาก่อน  ความขุ่นมาที่หลังความใส  และเมื่อกาลเวลาผ่านไป  ในบ่อหรือสระนั้นก็อาจมีน้ำใสมาทดแทน


             แม้น้ำโคลนที่ขุ่นน่ารังเกียจ  ก็อาจมองเห็นความใสอยู่ในนั้น  เมื่อมีปัญญาแยกเอาดินเอาโคลนทิ้งไป  น้ำนั้นก็จะกลายเป็นน้ำใสในทันที


             หรือบางทีเราตักน้ำที่ขุ่นจากแม่น้ำลำคลองมาแท้ๆ เพียงนำเอาสารส้มมาแกว่งสักพัก ขุ่นตะกอนทั้งหลายก็ตกตะกอนนอนก้น  ในที่สุดเราก็ได้น้ำใสมาใช้สอยตามต้องการ

 

            สิ่งที่ดูเลวร้ายบางอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต  หากเรามีสติเพ่งพินิจและรู้จักใช้ปัญญาเลือกสรร  เราอาจพบเพชรพลอยอยู่ในกองขยะได้สักวัน  ขอเพียงใจเรานั้นมีสติตั้งมั่นและมีความแยบคาย  สิ่งที่ดูเลวร้ายทั้งหลาย  อาจเป็นสาเหตุให้เราพบสิ่งใหม่ที่ดีกว่าก็ได้


            อย่าจำนนว่าทำไมชีวิตนี้ช่างมีแต่โคลนและความขุ่น  เมื่อมองให้ลึกซึ้งลงไป  อาจพบความใสที่ซ่อนอยู่ในนั้นก็ได้  สิ่งเลวร้ายที่เราพบเจอแต่ละวัน เมื่อเราฟันฝ่าจนข้ามพ้นอุปสรรคที่ขวางกั้น  หลังจากนั้นมักมีสิ่งดีๆติดตามมา


           ในท่ามกลางภาระอันหนักหน่วง  อาจเป็นเกียรติยศอันใหญ่หลวงติดตามมาในภายหลัง ในท่ามกลางความแร้นแค้นอันสาหัส  อาจกลายเป็นเกียรติประวัติไว้เล่าขานอวดผู้คนในวันหน้า  ในท่ามกลางการกลั่นแกล้งบีบคั้นบีฑา  อาจนำพาชีวิตไปสู่ความเป็นผู้นำ


           ในท่ามกลางการทรยศและหักหลัง   อาจนำพาสู่ความมีชื่อเสียงอันโด่งดังในวันหน้า ในท่ามกลางการดูหมิ่นเหยียดหยามทั่วพารา  อาจนำมาซึ่งเกียรติยศปรากฏไกล


           อย่าได้ทอดอาลัยว่าไม่มีน้ำใสให้ใช้สอย  ลองตั้งสติแล้วใช้สองมือน้อยๆแกว่งสารส้มให้เวลาอีกสักหน่อย  น้ำใสสะอาดที่รอคอย จะค่อยๆพบได้ในท่ามกลางน้ำที่เคยขุ่นนั่นเอง


          การรังเกียจและผลักไสน้ำโคลนไม่อยากเห็น  ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆก็เป็นเช่นนั้น แต่สำหรับมนุษย์ผู้น่าอัศจรรย์  กลับสามารถเปลี่ยนน้ำที่เคยขุ่นนั้น  ให้กลายเป็นน้ำใสได้ในภายหลังด้วยความอุตสาหะและพากเพียร


          ใครๆก็ต้องการน้ำใสด้วยกันทั้งนั้น  แต่ในยามที่พบแต่น้ำขุ่นไม่มีน้ำใสให้บริโภคกัน  เราต้องใช้พรสวรรค์ในการเปลี่ยนน้ำที่ขุ่นอยู่นั้นให้เป็นน้ำใสแทน    การทำได้เช่นนี้เป็นคุณสมบัติของผู้มีปัญญา


           พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า “บัณฑิตย่อมแสวงหาความสุขได้แม้ท่ามกลางความทุกข์”  นี้คือคุณสมบัติอันยิ่งใหญ่ของมันสมองและหัวใจของคนผู้มีปัญญาโดยแท้

 

             คนทั่วไปส่วนใหญ่ย่อมจำนนต่อความทุกข์ อุปสรรคและปัญหาที่ถาโถมเข้ามา  แต่สำหรับบัณฑิตผู้มีปัญญา ย่อมแสวงหาความสุขและความดีงามของชีวิตได้ แม้จะพบกับมรสุมและอุปสรรคขวากหนามหนักหนาเพียงใดก็ตาม


            ในยามใดที่ชีวิตประสบปัญหา  จงนั่งลงตั้งสติพิจารณา  พร้อมกับความเชื่อมั่นในหัวใจไว้เสมอว่า  ในท่ามกลางน้ำขุ่นสักเพียงใด  ย่อมจะมีน้ำใสอยู่ในนั้น  เพียงเรากล้าที่จะกลั่นกรองน้ำที่กำลังขุ่นนั้นสักหน่อย  เพียงไม่นานเราจะได้น้ำใสมาบริโภคด้วยความชื่นใจ

 

                                                                                             คุรุอตีศะ
                                                                                       ๘  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๗