เพียงดอกหญ้าก็มีค่ามากแล้ว
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
เพียงดอกหญ้าก็มีค่ามากแล้ว
ใครๆก็ดูหมิ่นฉันว่าเป็นเพียงดอกหญ้า มีผู้คนเดินผ่านไปผ่านมามากมายแต่ละวัน แต่ไม่มีสายตาคู่ไหนให้ความสนใจที่จะเหลือบมองฉันแม้แต่น้อย
ฤดูกาลที่ผ่านมา ฉันได้มีวาสนาถือกำเนิดเกิดมาบนโลกใบนี้ ช่วงเกิดมาใหม่ๆท้องฟ้าสดใสและมีเมฆลอยเต็มไปหมด พอตกตอนบ่าย สายฝนก็หลั่งไหลลงมาจากบรรดาเมฆเหล่านั้น
ฉันเย็นสบายและชุ่มฉ่ำ แต่ในขณะเดียวกันฉันก็สำลักน้ำฝนจนแทบหายใจไม่ออก ในวันนั้นฉันก็เริ่มเรียนรู้ว่า แท้จริงแล้วการเกิดมา ไม่ได้รับแต่สิ่งดีเพียงด้านเดียว
ในช่วงเวลาที่ฉันเริ่มเติบใหญ่ นับเป็นการโชคดีมาก ที่พวกมนุษย์ทั้งหลายไม่ค่อยได้ผ่านมาแถวนี้มากนัก ฉันขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อผู้เป็นหลัก ที่ไม่นิยมต้อนรับพวกมนุษย์มากนัก ซึ่งทำให้ฉันได้มีโอกาสเติบโตอย่างเต็มที่
เมื่อฤดูฝนผ่านพ้นไป ฉันก็โตเป็นสาวรุ่นที่เขียวขจีสดใส และก็มีหนุ่มๆสาวๆรุ่นเดียวกับฉันเกิดขึ้นอย่างมากมาย เราต่างดีใจที่ได้เกิดมาชมโลกใบนี้ ต่างพากันชูช่อและก้านใบร่าเริงทั้งเช้าเย็น
แต่พวกเราก็รู้ชะตากรรมของตัวเองดีว่า เราคงเกิดมาชื่นชมโลกใบนี้ไม่นานนัก สิ่งที่เรากลัวอย่างมาก ก็คือเครื่องตัดหญ้า ที่จะมาพรากชีวิตของพวกเราจากโลกใบนี้ แต่ก็ยังดี ที่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครนึกขึ้นได้จนสั่งคนให้มาตัดหญ้า ทำให้ฉันและเพื่อนๆมีชีวิตอยู่ได้เรื่อยมาจนเข้าสู่ฤดูหนาว
แม้ฉันจะโชคดีที่มีชีวิตยืนยาวจนก้าวข้ามฤดูและยุคสมัย แต่ฉันก็หวั่นใจขึ้นมาที่บอกใครไม่ได้ คือว่า เริ่มมีคนเข้ามาในสถานที่นี้
มีเศษเหล็กใหม่เอี่ยมทาสีบรอนด์คันหนึ่งป้ายข้างหน้าข้างหลังสีแดง ได้เข้ามาจอดใกล้ๆฉัน แล้วหลังจากนั้นก็มีมนุษย์สองขาเดินลงมาแล้วเดินเฉียดฉันไป ฉันตกใจและใจเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อเขาพยายามกลับรถและถอยรถ เพราะอีกไม่ถึงครึ่งเมตรเขาก็จะเหยียบฉันแล้ว แต่ในที่สุดฉันก็ยังดวงแข็งผ่านความเป็นความตายมาได้ นับว่าเป็นความโชคดีที่สุดอีกวันหนึ่ง
อย่างที่บอกแล้ว ฉันเป็นเพียงดอกหญ้า ที่ไม่มีค่าในสายตาของพวกมนุษย์ แต่ฉันก็ยังมีเพื่อนพิเศษจำพวกหนึ่งที่เห็นคุณค่าและให้เกียรติฉัน
เพื่อนจำพวกนั้นก็คือไก่และสุนัข สัตว์สองประเภทนี้ไม่มีทีท่าว่าจะล้างผลาญชีวิตฉันเท่ากับพวกมนุษย์ เพราะเขาไม่รู้จักมีดถางป่า และไม่รู้จักเครื่องตัดหญ้าที่แสนหนวกหู และเรามีสิทธิเท่าเทียมกันอย่างหนึ่งว่า หากวันใดมีเสียงเครื่องตัดหญ้า เราต่างก็รังเกียจและรำคาญเหมือนกัน
แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่เท่าเทียมกัน คือพวกนั้นมีขาวิ่งหนีไปให้ไกลตามความชอบใจถึงไหนก็ได้ แต่ตัวฉันนี้ไซร้ แม้จะทุกข์ตรมเพียงใด ก็ต้องทำใจรับความขื่นขมยอมรับชะตากรรม
ฉันก็พอได้เพื่อนกับไก่พวกนี้ ที่มันเดินเข้ามาจิกทีสองทีทักทายฉันบ้างไปแต่ละวัน ส่วนเจ้าสุนัขนั้นเขาเป็นลูกผู้ดีมีเงิน ได้รับการประคบประหงมจากเจ้าของจนฉันรู้สึกอิจฉา
แต่แม้เขาจะได้รับความเอาอกเอาใจเพียงใด ก็ยังมีบางวันที่เขาไม่ได้ถือตัววิ่งมาแถวพวกฉัน แล้วก็ยกขาข้างหนึ่งขึ้นแล้วปล่อยสายน้ำเล็กๆมาราดรดฉัน ซึ่งกลิ่นของมันนั้นแสนจะฉุนยิ่งนัก
แต่ฉันก็ยังซึ้งใจที่สุนัขผู้สูงส่งยังเห็นฉันมีค่า อุตส่าห์วิ่งมาเลือกฉันเป็นที่ระบายอารมณ์ แม้น้ำฝนของเขาจะมีรสชาติค่อนข้างขม แต่ฉันก็ยังนิยมว่าอย่างน้อยก็ยังมีน้ำใจมาเยี่ยมเยียน
ชีวิตของฉันทุกวันนี้ แม้ในสายตาของใครๆจะมองฉันอย่างดูหมิ่นและมองอย่างไร้ค่า แต่ฉันก็มีความสุขและภูมิใจว่า การได้เป็นดอกหญ้า เพียงแค่ได้เกิดมาและมีชีวิตอยู่ ก็มีค่ามากแล้ว
ฉันยินดีที่เห็นดอกกุหลาบอันแสนงาม ถูกผู้คนนำไปประดับไว้ในแจกัน กุหลาบเขางดงามและมีค่าเหมาะแก่การที่ผู้คนจะยกย่องเช่นนั้น
ฉันชื่นชมและปลื้มใจ ที่มองเห็นมนุษย์ผู้ใจบุญนำดอกบัวมาพับกลีบอย่างงดงาม แล้วตั้งไว้บูชาพระพุทธเจ้าหรือพระรัตนตรัย เพราะดอกบัวนั้นเขาเกิดมาเพื่อให้ผู้คนนำไปบูชาโดยเฉพาะ
ฉันรู้สึกได้ถึงความสดใส ที่เห็นดอกดาวเรืองได้รับการประดับไว้หน้าหิ้งพระ เพราะมนุษย์ทั้งหลายล้วนต้องการความรุ่งเรือง ไม่ต้องการความอับเฉา ฉันจึงดีใจที่พวกเขายังไม่สิ้นความหวัง
ส่วนดอกหญ้าที่อยู่ข้างทางอย่างฉันนี้ เพียงได้มีโอกาสโบกสะบัด โอนไหวล้อเล่นไปตามสายลมบ้าง ก็มีความสุขแล้ว แท้จริงแล้วความสุขของฉันก็อยู่ตรงที่ไม่มีใครรู้จักนี้นั่นเอง
ฉันไม่ต้องการถูกเด็ดไปประดับแจกัน ไม่ต้องการให้ใครนั้นมาใส่ใจมากเกินไป ขอเพียงฉันได้แอบชื่นชมผู้คนที่ผ่านไปมาอย่างเงียบๆ เพียงเท่านี้ชีวิตของฉันก็ล้ำค่าและเต็มเปี่ยมแล้ว
เพียงฉันได้มีโอกาสเกิดมา ได้เติบโตจนผ่านพ้นสองฤดูกาล ได้มีโอกาสชื่นชมสายลม และแสงแดด ได้สัมผัสทั้งสายฝนและลมหนาว เพียงเท่านี้ฉันก็คุ้มค่าในการได้เกิดมา เพราะแม้เป็นเพียงดอกหญ้า แต่ฉันก็ยังได้ทำหน้าที่ ได้ประดับโลกใบนี้ให้มีคุณประโยชน์และงดงาม
แม้ว่าการเกิดมาประดับโลกของฉัน จะไม่มีใครมองเห็นและเดินผ่านเลยไป แต่ฉันก็ภูมิใจที่ฉันได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้พร้อมกับมนุษย์ทั้งหลาย
ในท้ายที่สุดนี้ ฉันไม่ร้องขอสิ่งใดจากใครและโลกใบนี้ ไม่ใช่เพราะหยิ่งทระนงไม่งอนง้อใคร แต่เพราะหัวใจของฉันนั้นเต็มเปี่ยมในทุกสิ่งแล้ว
ฉันซาบซึ้งและขอบคุณทุกคนและทุกสิ่ง.... แม้เพียงเป็นดอกหญ้า ก็มีค่ามากแล้ว
คุรุอตีศะ
๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖