วันนี้คือวันดีที่สุด

วันนี้คือวันดีที่สุด


               เรามักจะคิดอยู่เสมอว่า วันพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ดีที่สุด  และเราก็มักได้ยินใครๆพูดให้ได้ยินอยู่บ่อยๆว่า  วันพรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้  และสำหรับบางคน  กลับคิดว่าอดีตที่ผ่านมาช่างดีกว่าวันนี้ก็มี


                  วันนี้ย่อมเป็นวันที่ดีสุด  ไม่มีวันไหนสำคัญและยิ่งใหญ่เท่าวันนี้อีกแล้ว  วันเวลาในอดีตมีอยู่แต่ในความทรงจำ ในยามที่เราหวนระลึกย้อนไปในขณะที่เราไม่ได้อยู่กับวันนี้หรือขณะนี้เท่านั้น  หากใจของเราอยู่กับความเป็นจริงในขณะนี้ปัจจุบัน อดีตทั้งหลายนั้น ก็เป็นเพียงมายา


                 วันนี้ย่อมเป็นวันดีที่สุด  ไม่มีวันไหนสำคัญและยิ่งใหญ่เท่าวันนี้อีกแล้ว  อนาคตวันพรุ่งนี้เป็นเพียงความพะวงและความวิตกกังวลที่ปรุงแต่งไปในยามที่ใจไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวในตอนนี้  อนาคตประดุจพยับแดด  เหมือนเป็นสิ่งมีอยู่จริงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า  แต่พอใกล้เข้ามาพยับแดดก็หายไป  อนาคตคือสิ่งที่ยังไม่มาถึง  สิ่งที่มาถึงจริงก็คือวันนี้และขณะนี้


                 เราอาจหวังในอนาคตว่า  หากมีบ้านสักหนึ่งหลังไม่ต้องเช่าเขาอยู่เราคงมีความสุขมาก  แต่พอมีบ้านจริงๆเรากลับไม่ค่อยได้ทานข้าวพร้อมหน้ากันเหมือนแต่ก่อน  เพราะต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินผ่อนบ้านและค่าใช้จ่ายต่างๆ  เมื่อกลับมาถึงบ้านลูกของเราก็หลับแล้ว  ผิดจากตอนอยู่บ้านเช่าที่ถูกทวงค่าเช่าบ่อยๆ เรากลับได้กอดลูกทุกวัน  


                เราอาจหวังไปในอนาคตว่า เราจะมีตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่  ได้รับความไว้วางใจว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ  แต่เมื่อได้ตำแหน่งที่ใฝ่ฝันมานานนั้นแล้ว  เรากลับต้องกลายเป็นคนไกลบ้าน  กว่าจะได้พบหน้ากันและทานข้าวด้วยกันเหมือนตอนตำแหน่งเล็กๆ ก็ต้องรอหนึ่งสัปดาห์ผ่านไป หรือบางครั้งก็หนึ่งเดือนผ่านไป  จึงจะได้ทานข้าวด้วยกัน


               เราอาจใฝ่ฝันว่าหากเราได้เป็นดารา  ได้เป็นนางแบบถ่ายรูปออกนิตยสารและออกรายการทีวี เราจะมีความสุขและภูมิใจมาก ที่คนทั้งหลายได้รู้จักเราทั่วทั้งประเทศและทำรายได้อย่างงดงาม  แต่พอได้เข้าสู่วงการ จึงได้พบว่าความอิสระและความต้องการที่อยากมีชีวิตส่วนตัวได้หายไปหมดแล้ว  ต้องฝืนใจรับบทบาทรับการแสดงโดยพยายามปลอบใจตัวเองไว้เสมอว่านี้คืออาชีพ บางครั้งต้องฝืนทนต่อความอายอย่างไม่เคยคิดว่าจะทนได้ในชีวิต  ได้แต่เฝ้ารอวันว่าจะเก็บเงินไว้ได้มากๆตามที่ตั้งใจไว้  จะได้กลับไปใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและมีความสุขอยู่อย่างไร้ข่าวคราวใดๆ


               เราอาจใฝ่ฝันไปในอนาคตว่าเราจะเป็นพ่อค้าเป็นนักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่  จะมีเงินให้มากมายไม่ให้ใครมาเหยียบย่ำดูถูกได้  แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป  ความสุขใจและความสบายใจสมัยที่คนเขาดูถูกกลับไม่เหลือร่องรอยอีกเลย


               เหตุใดเราต้องเอาความสุขในชีวิตไปแขวนไว้กับสิ่งที่เป็นอนาคต  เราอาจตั้งปณิธานหรือตั้งโครงการตั้งความหวัง แต่สิ่งที่ยืนอยู่เคียงคู่กับเราก็คือวันนี้   ความสุขของเราควรสัมผัสได้ตั้งแต่วันนี้  ไม่ใช่ต้องให้ถึงพรุ่งนี้เสียก่อน


              เราใฝ่ฝันว่าจะร่ำรวย จะยิ่งใหญ่  แต่ความจริงที่สัมผัสได้คือเงินหนึ่งร้อยบาทที่ยังพอมีติดกระเป๋า แล้วเราก็ซื้อข้าวและน้ำหนึ่งแก้วที่ร้านค้าข้างทาง แล้วก็ทานให้อิ่มและสบายใจ  ความยิ่งใหญ่ที่เราคิดไว้เก็บไว้ก่อนเพราะต้องทานข้าวให้อิ่มท้องในตอนนี้  แล้วก็ระวังให้ดีว่าเงินหนึ่งร้อยบาทนั้นยังคงติดอยู่ในกระเป๋าอยู่ไหม


              เราอาจใฝ่ฝันอยากมีบ้านหลังใหญ่ๆ  แต่ตอนนี้บันไดขึ้นตะไคร่และผุแล้ว  สังกะสีผู้มีพระคุณที่อุตส่าห์คุ้มฝนและสายลมมานาน  ไม่รู้จะยังพอต้านทานแรงพายุที่กรมอุตุฯเขาพยากรณ์หรือไม่  สิ่งที่พอหาความสุขได้และยิ่งใหญ่ ก็คือขัดถูบันไดเอาตะไคร่ออก เพื่อตัวเราเองและคนในบ้านจะได้ไม่ลื่น  สังกะสีที่คร่ำคร่ากำลังจะร่วงนั้น  ถ้าเราไม่เป็นช่างก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์คันเก่าไปตามคนเพื่อช่วยดำเนินการ  เพียงเท่านั้นเราก็นอนได้อย่างเต็มอิ่มและผาสุกแล้ว


             เราอาจใฝ่ฝันให้สามีรักเรามากๆและรักเรานานๆไปจนวันตาย  แต่ตอนนี้เสื้อผ้าที่กองทิ้งไว้ยังไม่ได้ซักเลย  สิ่งที่ควรทำในตอนนี้คือซักผ้า ตาก และรีดให้เรียบร้อย  เขาจะรักเรามากหรือรักเรานานตามที่ใฝ่ฝันหรือไม่ไม่เป็นไร  แต่อย่างน้อยเขาต้องยิ้มได้เมื่อได้ใส่ผ้าชุดใหม่สะอาดตา  ส่วนความสุขในวันหน้าค่อยมานั่งคิดกันอีกใหม่วันพรุ่งนี้


              เราอาจใฝ่ฝันให้ภรรยาเคารพและเชื่อฟังเรา  ความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ก็คือไม่อยากได้ฟังเธอบ่นก่อนนอน  เพราะเธอบ่นแล้วเธอก็หลับไปก่อน แต่เรากลับนอนตาค้างเอาเรื่องนั้นมาครุ่นคิด  ความใฝ่ฝันนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ให้เป็นเรื่องของชะตากรรมของชีวิต  ที่ลิขิตให้เราทั้งสองต้องมาเจอกัน  แต่สิ่งสำคัญนั้น คือต้องไปซื้อผลไม้ในตลาดตามที่เธอสั่งเสียไว้ก่อนจึงจะเข้าบ้านได้  มิฉะนั้นความสุขที่คาดไว้อาจต้องกลับกลายเป็นไปอย่างอื่น  เพียงเท่านี้เราก็ได้สัมผัสความสุขแล้ว  ที่เห็นเธอมีรอยยิ้มที่ได้ผลไม้ดังใจ  สวรรค์ในครอบครัวก็เกิดขึ้นทันตาเห็นไม่ต้องรอตายก่อนอย่างที่พระท่านว่าไว้


              ความสุขของคนเราควรมีตั้งแต่วันนี้  อย่าให้วันเวลาของชีวิตสูญสิ้นไปกับความอาลัยอาวรณ์ในสิ่งที่เป็นอดีตซึ่งผ่านไปแล้ว  ไม่ปล่อยให้พลังชีวิตของเราต้องสูญเสียไปเพราะเอามัวครุ่นคิดพะวงกับอนาคตซึ่งยังไม่มาถึง  


             อนาคตจะเป็นความจริงได้เพียงใด  ก็ขึ้นอยู่กับว่าชีวิตที่เป็นไปในวันนี้เราอยู่อย่างไร  เป้าหมายที่วางไว้ไม่ได้บรรลุหรือถึงได้ด้วยการคิดหรือวิตกกังวล แต่คือการก้าวเดินแต่ละก้าวของเราในวันนี้ต่างหาก  อดีตจะว่าดีสักเพียงใด  แต่ก็ล่วงเลยไปแล้ว  อนาคตจะดูสวยหรูอย่างไร  แต่ก็ไม่อาจสัมผัสได้เหมือนวันนี้และขณะนี้  อนาคตทั้งมวลล้วนขึ้นอยู่กับปัจจุบันนี้นั่นเอง วันในอดีตหรือวันในอนาคตจะเป็นอย่างไร   ไม่ว่าวันไหนๆย่อมไม่มีวันอะไรยิ่งใหญ่เท่าวันนี้  วันนี้คือวันที่ดีที่สุดของเราเสมอ


คุรุอตีศะ
๒๖  มิถุนายน  ๒๕๕๖