ดีจริง

 ดีจริง

 

ความมีศีลธรรมเป็นเรื่องของสมอง ที่ต้องใช้เหตุผลและความกดข่มจึงจะปฏิบัติตนตามครรลองศีลธรรมที่สังคมกำหนดขึ้นได้

 

เพราะการต้องคอยกดข่มหรือสะกดกลั้นอารมณ์เพื่อให้เป็นคนดี จึงทำให้ใจขาดความแววไวไม่เป็นธรรมชาติ ในที่สุดศีลธรรมที่เคยมีก็พังทลาย หลายคนต้องพบกับความเสียใจและโกรธแค้นชิงชังหรือลงโทษตัวเองที่ไม่สามารถดำรงตนอยู่ในศีลธรรมได้ตามที่หมายมั่นปั้นมือและมั่นใจเสมอมา

 

นี้แหละจึงทำให้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นมาในโลก เพื่อดับทุกข์ ดับโศก ดับความเร่าร้อนแห้งผากของดวงใจสรรพสัตว์ทั้งหลาย 

 

สัตว์โลกจึงมีโอกาสได้พบกับคำสอนว่า "สรรพสิ่งไม่มีอะไรแน่นอน" แม้ตั้งใจจะเป็นคนดีสักแค่ไหน แต่ก็อาจมีเหตุปัจจัยทำให้ชีวิตพลิกผันเป็นไปตรงกันข้ามกับความตั้งใจเดิมก็มี

 

การปฏิบัติเพื่อความเรียบร้อยสวยงามตามรูปแบบ หรือการพยายามเป็นคนดีมีศีลธรรม จึงยังไม่มีความแน่นอนว่าจะรักษาใจให้บริสุทธิ์ได้ตลอดสาย ดีวันนี้ วันข้างหน้าอาจมีแต่ความวุ่นวาย วันนี้ร้าย วันข้างหน้าอาจพบความสงบสุข นี้แหละคือความเป็นอนัตตา

 

ต้องเจริญสติเพื่อยอมรับได้ต่อทุกปรากฏการณ์และทุกสรรพสิ่ง นั่นแหละจึงจะเรียกว่า "ดีจริง" ที่อยู่เหนือกว่าการเป็นคนดีหรือศีลธรรมทั้งหลาย เป็นดวงจิตที่ลอยเด่นเหนือสมมุติทั้งโลก เหนือการเกิด แก่ เจ็บ ตาย 

 

สิ่งนี้คือชีวิตของพระอริยเจ้าทั้งหลาย ผู้พ้นโลก อยู่เหนือดีเหนือชั่ว เหนือความมีศีลธรรมที่สมมุติกันอยู่ในสังคมและโลกปุถุชนทั้งปวง

 

คุรุอตีศะ

๕ กันยายน ๒๕๖๗