หากไม่เข้มแข็ง

 หากไม่เข้มแข็ง

 

การมีสิ่งกระทบจิตใจ แล้วก็เกิดความคิดว่าฉันจะไม่แคร์ใคร ไปทำอย่างอื่นก็ได้ คือความไม่หนักแน่นของจิตใจ คนสมัยนี้มักเป็นกันมาก ปัญหาชีวิตจึงมากมาย อันเกิดจากการไม่พอใจ แล้วใจก็แปรเปลี่ยนหรือไปทำอะไรประชดเป็นอย่างอื่น

 

บางทีเรื่องราวบางอย่างใกล้จะบรรลุผลสำเร็จอยู่แล้ว เพียงไม่ถูกใจ เมื่อทำประชดอะไรนิดเดียว ก็ทำให้พลาดจากความสำเร็จนั้นโดยง่าย

 

คนมีปัญญาเฉลียวฉลาดหรือมีความสามารถ แพ้คนที่สติปัญญาด้อยกว่าก็ตรงที่ความหนักแน่นอดทนนี้เอง 

 

คนเก่งจำนวนมากที่ไม่ประสบความสำเร็จ ก็เพราะขาดความหนักแน่นอดทน ท่านจึงสอนว่า "ไม่ว่าสิ่งใดๆ ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่กว่าความอดทน" เนื่องจากความอดทนคือส่วนหนึ่งของสมาธิ

 

ภรรยาบางคนได้สามีเป็นคนใจดี อยากทำอะไรก็ทำได้ตามใจและให้อำนาจทุกอย่าง วันหนึ่งเขาพูดอะไรด้วยความรู้สึกที่จริงใจ แต่ตนเองกลับทนไม่ไหวรับไม่ได้เพราะเคยชินแต่กับความใจดีของเขา เมื่อมีใครมาพูดอะไรนิดหน่อยก็กลายเป็นคนหูเบา ชีวิตที่มีความสุขก็มีปัญหา เพียงแค่เพราะตัวเองขาดความหนักแน่นอดทน

 

ผู้ชายบางคน ได้ภรรยาที่แสนดีและเธอเป็นฝ่ายอดทนมาตลอด จะกินเหล้า จะเจ้าชู้ เธอก็ทนได้ จนเหลิงใจว่าทำอะไร เธอคงไม่ว่า เมื่อถึงจุดหนึ่งเธอกลายเป็นตัวของตัวเอง เพราะหมดสิ้นความอดทน แล้วตนเองก็ต้องพบกับความเสียใจ ลืมไปว่ามนุษย์ปุถุชนไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่ไหน ยากนักที่จะหาใครที่ยอมทนให้ใครย่ำยีจิตใจไปจนวันตาย

 

ดังนั้น ชีวิตที่แท้นั้น ใช้ทั้งความอดทน และบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องอดทน อยู่ที่ว่าเหตุการณ์ในขณะนั้น กำลังของสติของเราจะมีสักแค่ไหน

 

หากสติไม่ทันอารมณ์ ไม่เข้มแข็งเพียงพอ ต่อให้ใครพร่ำบอกว่าให้อดทนสักแค่ไหน ก็ยากนักที่จะทนและฝืนใจ คนที่อดทนได้ตลอดไป ท่านจึงว่ามีเพียงบุคคลประเภทเดียวคือพระโสดาบันบุคคลขึ้นไปเท่านั้นเอง

 

คุรุอตีศะ

๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๗