ความเชื่อของเรา

 ความเชื่อของเรา

 

ชีวิตจะเป็นไปตามความเชื่อของเรา

 

จงเชื่อว่าเราเกิดมาเพื่อสร้างคุณค่าบางอย่างให้แก่โลกใบนี้ เมื่อถึงเวลาเราก็จะมีโอกาสได้ทำสิ่งนั้นในวันหนึ่ง

 

ในท่ามกลางมรสุมชีวิตที่รุมเร้า หากเราเชื่อว่าความสุขและความสำเร็จรอเราอยู่ข้างหน้า ไม่นานมรสุมชีวิตที่มีมายาวนานก็จะผ่านไป

 

แก้ปมด้อยหรือปัญหาชีวิตด้วยความคิดที่ดีภายในตัวเรา

 

อย่าไปคิดถึงในด้านลบกับสิ่งที่ผ่านมา

 

แต่จงมองหาความสุขและความดีที่เราเคยได้รับ เคยได้ทำไว้ 

 

สิ่งใดที่คิดแล้วนำมาซึ่งความชื่นใจ ปลื้มใจ จงคิดถึงแต่สิ่งนั้นบ่อยๆ

 

คิดถึงการตัดสินใจใส่ชุดขาวถือศีลแปดเป็นครั้งแรก แม้จะหิวข้าวและลำบาก แต่ก็อิ่มใจและภูมิใจทุกครั้งที่นึกถึง แม้เหตุการณ์จะผ่านมาแล้วเป็นสิบปี..

 

จงคิดถึงความรู้สึกที่ดีนั้นบ่อยๆ (เป็นสีลานุสติ)

 

เมื่อห้าปีก่อน เรามีเงินทั้งบ้านแค่สองพันบาท วันหนึ่งมีเพื่อนมาขอยืมเพื่อเดินทางไปเยี่ยมลูกชายที่ติดคุก 

 

เรากลั้นใจตัดสินใจให้ไปด้วยความรู้สึกที่เห็นใจในความทุกข์ของเขา จนลืมความทุกข์ของตัวเองไปเลย

 

ผลจากการตัดสินใจที่เสียสละอย่างเด็ดเดี่ยวคราวนั้น ทำให้เราคิดถึงทีไรก็มีความสุขทุกครั้ง 

 

แม้ต่อมาเราจะมีเงินไม่เคยขาดมืออีกเลย ทำบุญได้คราวละสองสามพันได้อย่างสบายๆ แต่ก็ไม่รู้สึกอิ่มใจภูมิใจเหมือนตอนช่วยคนด้วยเงินสองพันบาทในครั้งนั้น นับว่าแปลกมาก..

 

ความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจแบบนั้นแหละ ให้คิดถึงมันบ่อยๆ

 

สุขหรือทุกข์ แท้จริงแล้วสิ่งทรงอิทธิพลที่สุดไม่ใช่ใคร แต่คือความคิดของเราเอง

 

คนมีบุญคือคนที่มีความสามารถคิดถึงสิ่งที่ดีๆได้บ่อย

 

คนอาภัพคือคนที่คิดอะไรแต่ในทางลบ โทษแต่คนอื่น จึงทำให้จักรวาลมอบแต่สิ่งลบๆให้ตามจิตของเขาที่ชอบคิดแบบนั้น

 

ดังนั้น เราจึงขอเลือกเป็นคนมีบุญดีกว่า 

 

เราขอคิดถึงแต่บุญกุศล คิดถึงความเมตตาความช่วยเหลือเกื้อกูลที่เรามอบให้แก่ผู้คนและโลกใบนี้ เพื่อให้จักรวาลมอบแต่สิ่งที่ดีๆ ความสุขและความสบายใจให้เรา

 

คุรุอะตีศะ

๔ กรกฎาคม ๒๕๖๖