ศรัทธาคือปาฏิหาริย์

          เป็นธรรมดาที่คนส่วนใหญ่จะไม่เชื่อในสิ่งลี้ลับหรือปาฏิหาริย์
เพราะระบบการศึกษามุ่งฝึกฝนสมองฝั่งซ้ายของพวกเรามาตั้งแต่เด็ก
เพื่อรองรับระบบอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์

 

          สมองฝั่งซ้ายนี้อันเป็นสมองในฝ่ายเหตุผล อันเป็นความถนัดทางคณิตศาสตร์
เพื่อการพัฒนาทางวัตถุ การแข่งขัน อันเป็นความเจริญทางโลก

 

          ส่วนสมองฝั่งขวา อันเป็นส่วนที่เกี่ยวกับจินตนาการ จิตวิญญาณ
บทกวี ความรัก ความงดงาม หรือสุนทรียศาสตร์
โลกภายในอันเป็นรากฐานแห่งความสุข ความสงบอันลึกซึ้งของหัวใจ
เราแทบไม่ได้รับการพัฒนาในสัดส่วนที่เหมาะสมแต่อย่างใด
คนในสมัยนี้จึงมีความทุกข์ใจกันมาก

 

          ด้วยเหตุนี้ คนที่เรียนหนังสือมาก อ่านหนังสือมาก หรือเป็นปัญญาชน
จึงทำสมาธิไม่ค่อยได้ ทำสมาธิได้ยาก แม้แต่พระที่ออกบวชซึ่งเอาแต่เรียนหนังสือ
แม้แต่การเรียนบาลี ที่เรียนเพียงเพื่อสอบได้ ท่านก็ทำสมาธิไม่ได้
บางรูปก็ยังไม่เชื่อว่ามีชาติก่อน ชาติหน้า ไม่เชื่อในปาฏิหาริย์

 

          เหตุผลก็ทำนองเดียวกัน คือ แม้จะออกบวช
แต่ส่วนใหญ่ก็ฝึกฝนแต่สมองฝั่งซ้าย
พยายามจะเป็นนักวิทยาศาสตร์เพื่อให้สังคมชาวโลกยอมรับ

 

          จนกว่าท่านจะมีโอกาสฝึกสมาธิ ล้างความรู้ทั้งหมดออกไป
แล้วเพิ่มพูนประสิทธิภาพสมองฝั่งขวาจนได้ระดับ
หลังจากนั้นผู้ที่ไม่เชื่อว่ามีสิ่งลี้ลับ จิตจะหยั่งลงสู่ความละเอียดลึกซึ้ง
จะพัฒนาไปสู่ความเป็นนักวิทยาศาสตร์ทางจิต ที่ประณีตกว่า

 

          ผู้ที่เคยผ่านสังคมหรือมีการศึกษาสูงแล้วเป็นพระป่าหรือปฏิบัติธรรม
จนหันหลังให้ทางโลก อย่างท่านอาจารย์ “จูเลียน”ชาวแคนาดา
ก็เพราะได้พบสัจธรรมอันลึกซึ้งหรือบรรลุสมาธิ(บรรลุธรรม)นั่นเอง

 

          ดังเหตุผลที่กล่าวมา ครูบาอาจารย์ที่ท่านจะบรรลุสมาธิ มีอภิญญาสมาบัติ
ส่วนใหญ่ท่านจะมีโอกาสออกบวชตั้งแต่เป็นเด็ก หรือตั้งแต่เป็นหนุ่ม
แล้วได้มีโอกาสพบครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณ
จึงทำให้ท่านมีคุณวิเศษเหนือกว่าพระรูปอื่น หรือบุคคลอื่น
ลักษณะเช่นนี้แหละที่ท่านเรียกว่า บุญวาสนาบารมี

 

          อุปสรรคที่ขวางกั้นไม่ให้บรรลุสมาธิ ก็คือ การอ่านหนังสือที่ทำให้จิตฟุ้งซ่าน
การคลุกคลีกับผู้คนและข้อมูลข่าวสาร
และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ กามฉันทะ ซึ่งคนในปัจจุบันจะถูกสิ่งเหล่านี้
ครอบงำมากกว่ายุคยังไม่มีอินเทอร์เน็ต

 

          จึงทำให้กล้าจะลบหลู่ผู้ที่จิตท่านใสสะอาดมาตั้งแต่เด็ก
ซึ่งจิตของท่านจะใสซื่อสะอาดปราศจากเล่ห์เหลี่ยมเหลี่ยมชั้นเชิง
ผิดกันมากกับพวกเราที่อยู่ในสังคมที่เจริญทางวัตถุหรือมีโอกาส
เรียนหนังสือเพื่อเป็นที่ยอมรับของสังคม

 

          คนส่วนใหญ่จิตใจจะอยู่ในระดับมิติที่ ๒ หรือมิติที่ ๓
น้อยคนจะมีจิตในมิติที่ ๔ ที่เริ่มมีจิตที่ละเอียดอ่อนลึกซึ้ง

 

          สำหรับครูบาอาจารย์ผู้เป็นพระแท้หรือมีอภิญญา
ระดับจิตของท่านอย่างน้อยจะต้องไม่ต่ำกว่ามิติที่ ๕
จิตระดับนี้จะเปี่ยมด้วยความรักความเมตตาและมุ่งสงเคราะห์ผู้อื่นอย่างไร้ข้อแม้
ไร้เงื่อนไข ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน

 

          นักประดาน้ำชาวอังกฤษ ๓ คน เขาก็มีจิตใจที่เปี่ยมด้วยความรักความเมตตา
มุ่งค้นหาเด็กโดยไม่หวังชื่อเสียงใดๆ
จิตของเขาในช่วงนั้นไม่ต่างจากจิตของพระ อานุภาพแห่งความรัก
จึงทำให้เขาไปพบเด็กตามแรงอธิษฐานตั้งใจ
กรณีนี้ก็เรียกว่า เป็นปาฏิหาริย์ได้เช่นกัน

 

          เขาช่วยค้นหาเด็กทั้ง ๑๓ คนจนพบว่าปลอดภัยแล้ว
เขาก็บินกลับประเทศเลย ไม่รอถ่ายรูป
ไม่รอให้สัมภาษณ์ ไม่หวังชื่อเสียงใดๆ นี้คือลักษณะของจิตมิติที่ ๕
จึงสามารถอุทิศตนเพื่อคนอื่นได้อย่างมีความสุข

 

          พลังแห่งความรัก พลังแห่งศรัทธา มักจะชักพาให้ชีวิตของเราได้พบปาฏิหาริย์ได้เสมอ

 

คุรุอตีศะ
๔ กรกฎาคม ๒๕๖๑