ดุจเกลือรักษาความเค็ม

 ดุจเกลือรักษาความเค็ม

 

 

                    ในยามที่ถึงคราวคับขัน จงตัดสินใจเลือกวิธีที่รักษาความเคารพตนเองไว้ได้  อย่าเลือกการเอาตัวรอดเฉพาะหน้าแต่ต้องมานึกเสียใจในภายหลัง


                    ยิ่งหากเราคือคนหนึ่งเป็นผู้เคยศึกษาธรรมะ มีครูบาอาจารย์ชี้ทางที่ดีงามให้เดินมาก่อนแล้ว  เรายิ่งต้องปาดน้ำตาแล้วเดินไปบนเส้นทางแห่งความดีงามต่อไป  จงรักษาคุณงามความดีของเราไว้ ดุจเกลือรักษาความเค็ม


                   แม้เราเป็นหญิงได้ชื่อว่าเป็นเพศที่อ่อนแอ แต่เราก็คือมนุษย์ที่มีศักดิ์ศรีอยู่บนโลกนี้กับเขาคนหนึ่ง เมื่อยังไม่พบผู้ชายที่รักจริง เราก็ต้องรักนวลสงวนตัวของเราไว้ อย่าไปเปิดช่องทางให้ใครมาล่วงเกินร่างกายของเรา อันจะทำให้เราสูญเสียความมั่นใจและสูญเสียความเคารพตนเอง


                  อย่าคล้อยตามสังคมที่กำลังฟอนเฟะ เพราะเขาเหล่านั้นไม่มีใครชี้ทางที่ประเสริฐ จึงหลงเพลินเดินเข้ากองไฟ  หากย้อนชีวิตกลับคืนได้ หญิงสาวทั้งหลายเหล่านั้นจะพูดคำเดียวกันว่า “ทางนี้อย่าเดิน”


                  อย่าเอาความผิดหวังในเรื่องความรักประชดชีวิตทำตนให้ตกต่ำ  อย่าเอาความชอกช้ำเป็นเส้นทางก้าวลงสู่หุบเหว  อย่าเอาความผิดพลาดซ้ำเติมตัวเองให้กลายเป็นคนเลว  แต่จงเอาความผิดหวังและความล้มเหลวสร้างชีวิตของเราขึ้นมาใหม่  ให้เป็นชีวิตที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งหลายเท่ายิ่งกว่าเดิม


                 เกิดเป็นหญิงจงรู้จักหยิ่งในศักดิ์ศรี อย่าให้ชายคนใดที่เราไม่ได้รักและเขารู้สึกเทิดทูนเรามามีสิทธิ์รุกล้ำร่างกายและความเป็นส่วนตัวของเราได้  หากไม่ใช่วิบากกรรมหรือถูกคนชั่วหลอกลวงเราจะไม่ยอมให้ใครมาดูหมิ่นแม้ว่าจะอดตาย เราจะรักษาความมีค่าของเราไว้จนกว่าจะพบชายที่คู่ควร


                  หากเราเป็นคู่ครองของใครแล้ว เราจะไม่ยอมให้ชายใดมาแทะโลมหรือดูหมิ่น  เราจะไม่ยอมเข้าใกล้หรือสนิทสนมคลุกคลีกับผู้ชายคนใดที่จะมาทำลายศักดิ์ศรีคู่ชีวิตของเราได้ 

 

                 ขึ้นชื่อว่าชีวิตคู่ ย่อมสุขบ้าง ทุกข์บ้าง แต่ก็เป็นสิ่งที่เราได้เลือกแล้วและพอใจ  แม้จะมีใครหล่อใครสวยหรือดีวิเศษสักแค่ไหน จะไม่มีใครวิเศษเท่าเทพบุตรหัวฟูหรือเทพธิดาหน้าเป็นมันที่อยู่ข้างกายเรา ที่หัวเราะและร้องไห้ด้วยกันตลอดมา


                  เราจะเป็นคนหนึ่งที่กล้าว่ายน้ำทวนกระแส  เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะฝ่าเกลียวคลื่นข้ามขึ้นสู่ชายฝั่ง  คนทั้งหลายที่ถูกกระแสคลื่นพัดพาไป เขาก็ต้องเป็นไปตามวิถีของชีวิตที่ผิดพลาดและมีหัวใจที่ขาดพลัง ส่วนตัวเรานี้มีเรี่ยวแรงกำลังและความสามารถที่จะแหวกว่ายขึ้นสู่ฝั่ง  เรื่องอะไรเล่าจะปล่อยให้คลื่นซัดหลุดลอยจมหายไป


                 เมื่อเลือกได้ขอจงรักษาความเป็นกุลสตรีของเราไว้  อย่าไขว้เขวไปตามคำชักชวนของใครให้เราต้องพลาดพลั้งไปทำชั่วเหมือนกับเขา คนอื่นเขาอาจทำของเขาได้ แต่นั่นไม่ใช่วิถีทางของเรา ใครจะเป็นอย่างไรก็ปล่อยเป็นเรื่องของเขา  ส่วนเรื่องของเรามีอย่างเดียวคือเส้นทางแห่งการ “ครองตนเป็นสตรีที่มีศีลและรักนวลสงวนตัว”


                 ขึ้นชื่อว่าเกลือ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็ยังคงรักษาความเค็มไว้ได้วันยังค่ำ  เป็นมนุษย์แม้สุดระกำ ก็ต้องยึดมั่นในคุณธรรมและมโนธรรมไม่หวั่นไหว  ใครจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปตามกระแสสังคม ก็ปล่อยให้เขาเป็นแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ  เราไม่มีสิทธิ์ไปว่ากล่าวใครได้  แต่เราจะว่ากล่าวและตักเตือนตัวเราเอง


                 สังคมอาจสับสนและผู้คนพากันหลงผิดตามแรงยั่วยุของกิเลสชั่วยุคสมัยหนึ่ง เมื่อวันเวลาผ่านไปจนผู้เป็นใหญ่และผู้ปกครองให้ความสำคัญในเรื่องศีลธรรมมากกว่าสิ่งใดที่ตนหลงผิดประพฤติมานาน  ประชาชนทั้งหลายก็จะเข็ดขยาดต่อราคะ โทสะ โมหะ เคารพในคุณธรรมและกฎแห่งกรรมมากขึ้น

 
               ในยามนี้เราจึงต้องประคองตัวให้ผ่านพ้นกระแสอันเชี่ยวกรากไปให้ได้ ไม่ว่าจะทุกข์ยากและต้องปาดน้ำตามากสักเท่าใด  จนวันหนึ่งเมื่อเราก้าวถึงหลักชัย เราจะอดมิได้ที่ต้องค้อมศีรษะคารวะต่อทุกคนและทุกสิ่งที่ส่งให้เราก้าวพ้นผองภัยทั้งปวงจนพบกับความสุขสวัสดี


               ขอให้ทุกคนจงพ้นผ่านอุปสรรคและมรสุมของชีวิตทั้งปวงไปได้  ขอให้พลังแห่งความรักจงหนุนส่งให้เกิดกำลังใจในการก้าวข้ามซึ่งขวากหนาม  แม้จะทุกข์ยากลำเค็ญสักเพียงใดก็ตาม ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงทั่วสากลจักรวาล จงอภิบาลให้ปราศจากอันตราย พบแต่ความสุขและสมหวังในสิ่งที่ใจปรารถนาทุกท่านเทอญฯ

 

 

                                                                                  คุรุอตีศะ
                                                                      ๓๐  สิงหาคม  ๒๕๕๙