ปรารภธรรม:พระธาตุของพระเกาหลี
- รายละเอียด
- หมวด: คติธรรม/ปรารภธรรม
พระธาตุของพระเกาหลี
นักปฏิบัติทั้งหลายย่อมทราบกันโดยทั่วไปว่า หากพระเถระที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้มรณภาพหรือละสังขาร มักมีปรากฏการณ์ที่เป็นเครื่องยืนยันผลการปฏิบัติอย่างหนึ่งคือ อัฐิของครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณเหล่านั้นมักจะกลายเป็นพระธาตุ บางองค์ก็กลายเป็นพระธาตุในทันทีเมื่อฌาปนกิจเสร็จ บางองค์อัฐิของท่านก็มาแปรกลายเป็นพระธาตุในภายหลังก็มี
ปรากฏการณ์อันอัศจรรย์เหล่านี้ หลายคนอาจคิดว่าจะมีแต่ในประเทศไทยหรือคิดว่ามีแต่พระป่าสายหลวงปู่มั่นเท่านั้น แต่ความจริงแล้วเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั่วไปไม่ขึ้นกับว่าเป็นสายใด นิกายใด หากบุคคลปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์แปดก็สามารถบรรลุได้เสมอกัน แม้แต่ในประเทศเกาหลีซึ่งเป็นฝ่ายมหายาน ก็มีผู้บรรลุธรรมและอัฐิกลายเป็นพระธาตุ
เมื่อพระภิกษุในคณะสงฆ์เกาหลีมรณภาพหรือละสังขาร จะมีการปลงสังขารหรือทำฌาปนกิจในที่กลางแจ้ง โดยวางร่างบนกองฟอนแล้วสุมด้วยขอนไม้ จากนั้นก็เผาจนเหลือแต่อัฐิหรืออังคารเถ้าถ่าน แล้วนำไปบรรจุในสถูปทรงโคมไฟ ทรงดอกบัวหรือทรงระฆัง
หากเป็นพระเถระผู้ทรงคุณ ก็จะมีการติดตั้งป้ายศีรษะมังกร ฐานเสวียนอู่ เพื่อประกาศเกียรติคุณและคุณงามความดีให้โลกได้รู้จักและเคารพบูชาไปตราบนานเท่านาน
มีบางกรณีที่หลังจากทำพิธีฌาปนกิจพระเถระบางรูป จะมีการพบในสิ่งที่คนไทยเรียกว่า “พระธาตุ” ในสถานที่เผาสรีระของพระเถระรูปนั้น สิ่งที่พบนี้ที่เกาหลีเรียกว่า “ซารี” อันมีรากศัพท์มาจากคำว่า “สารีริกธาตุ” หรือคำว่า “สรีระ” ในภาษาบาลีเดิม
ลักษณะของ “ซารี” ที่พบนี้ มีลักษณะเป็นแก้วใสบ้าง คล้ายพลอยหรืออัญมณีอย่างอื่นบ้าง หรือมีลักษณะแปลกๆไม่เหมือนอัฐิของมนุษย์ทั่วไป ซึ่งจะพบในกองฟอนที่เผาสรีระพระเถระที่ทรงคุณ ส่วนใหญ่จะพบในกรณีที่เป็นพระเถระฝ่ายวิปัสสนา หรือในคณะนิกายซอน(นิกายเซน)ซึ่งพระนิกายนี้มีข้อวัตรปฏิบัติคล้ายพระธุดงค์บ้านเรา ต่างกันแค่จีวรการนุ่งห่ม
อย่างไรก็ตาม พระเถระส่วนใหญ่ไม่สนับสนุนให้ยึดติดต่อสิ่งเหล่านี้ บางท่านถึงกับกำชับลูกศิษย์ไว้ล่วงหน้าให้นำอัฐิของท่านไปโปรยในที่ห่างไกล เพื่อป้องกันสานุศิษย์มิให้หลงใหลในเรื่องทำนองนี้ เนื่องจากบางครั้งผู้คนมีการแสวงหาพระธาตุของอาจารย์กันอย่างขะมักเขม้นมากเกินไป จนลืมคำสอนและการเจริญสติสมาธิภาวนาอันเป็นธรรมะที่แท้จริง แต่แม้กระนั้นในระยะหลังมานี้ มักมีปรากฏการณ์พบพระธาตุในเกาหลีบ่อยขึ้น
พระคณาจารย์แห่งประเทศเกาหลีที่อัฐิกลายเป็นพระธาตุ ได้แก่ ๑.จ็องแท ซือนิม ๒.ซองซอล ซือนิม ท่านผู้นี้มีปฏิปทางดงามและเลื่องลือเรื่องผู้นำคณะถือสันโดษ ๓.ซอ อง ซือนิม ท่านผู้นี้กำหนดวันตายได้และนั่งสมาธิละสังขาร ๔.จีกวาน ซือนิม ๕.จีจง ซือนิม ๖.ฮเยอัม ซือนิม ท่านผู้นี้มีปฏิปทาขึ้นชื่อในเรื่องความกล้าหาญเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว
สิ่งเหล่านี้คือการประกาศคำสอนอย่างเยี่ยมยอด และเป็นสักขีพยานอันยิ่งใหญ่ของพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงตรัสยืนยันกับสุภัททปริพาชก ซึ่งเป็นสาวกองค์สุดท้ายก่อนทรงเสด็จดับขันธปรินิพพานว่า “หากยังมีผู้ปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์แปดอยู่ตราบใดไซร้ ตราบนั้นโลกนี้ก็จะไม่ว่างจากพระอรหันต์”
เมื่อสองปีที่แล้วก็มีข่าวไปทั่วโลกถึงความมหัศจรรย์ในเรื่องทำนองนี้ เมื่อเจ้าอาวาสวัดใหญ่แห่งเมืองเสินเจิ้น ประเทศจีน ได้นำพระธาตุของพระมหาเถระรูปหนึ่งซึ่งเป็นพระลูกวัด ได้มรณภาพลงในขณะอายุได้ ๑๐๐ ปีเศษออกแสดงแก่ประชาชนโดยทั่วไป
พระเถระองค์นี้ท่านรักการปฏิบัติธรรมในฐานะเป็นพระในนิกายเซน (ในบ้านเราเรียกว่าพระปฏิบัติหรือพระกรรมฐาน) ในช่วงที่คอมมิวนิสต์ดำเนินนโยบายปฏิวัติวัฒนธรรมด้วยความหลงผิดและมีอิทธิพลทำลายวัดวาไปทั่วเมืองจีนนั้น ท่านได้ซ่อนตัวหลีกเร้นไปตามถิ่นกันดารเพื่อปฏิบัติสมาธิภาวนา ในบั้นปลายชีวิตท่านได้มาจำพรรษาที่วัดใหญ่แห่งนั้นจนกระทั่งมรณภาพลงและมีการทำฌาปนกิจของท่าน ปรากฏว่าอัฐิของหลวงปู่องค์นี้ได้แปรสภาพกลายเป็นพระธาตุทุกชิ้นส่วน มีลักษณะเหมือนพลอย โกเมน บุษราคัม น่าอัศจรรย์มาก
ในช่วงที่บ้านเมืองของเรากำลังอยู่ในช่วงแห่งความยากลำบาก เราทั้งหลายพึงตั้งสติระลึกถึงสังฆานุสติเหล่านี้ไว้ จะทำให้ชีวิตแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งหลาย
นับจากนี้เหตุการณ์บ้านเมืองอาจมีเหตุการณ์รุนแรงยิ่งขึ้น จึงขอภาวนาให้ผู้เป็นใหญ่ท่านได้สติเห็นแก่ประชาชนตาดำๆและตกลงกันให้ได้ ก่อนที่บ้านเมืองนี้จะลุกเป็นไฟ มิฉะนั้นตรุษจีนนี้อาจมีเหตุการณ์ร้ายแรงครั้งใหญ่ ที่อาจจะทำให้ประเทศไทยถอยหลังไปอีกสามสิบปี
ตามดวงเมืองในปีนี้ถึงอย่างไรเสียก็ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ขอให้ทุกคนจงทำใจเสมือนหนึ่งตกอยู่ในภาวะสงครามที่ซ่อนรูป ยังไม่ได้เป็นสงครามที่ลากปืนมายิงกันแต่เป็นสงครามเศรษฐกิจที่โหดร้ายไม่น้อย หากไม่มีที่พึ่ง จงมากินข้าววัดแล้วสงบปากสงบคำอยู่ในเกพลิตา หากอยู่บ้านนอนห้องแอร์แต่ฟุ้งซ่านนอนผวา จงมารักษาศีลหาความสงบใจ
ขึ้นชื่อว่าการเมืองนั้นเป็นเรื่องของอำนาจ การพูดถึงคุณธรรมแท้จริงแล้วส่วนใหญ่ก็เพื่อให้ตนมีความชอบธรรมและเพื่อให้ได้รับการยอมรับเท่านั้น แม้จะยิ่งใหญ่สักแค่ไหนก็ต้องร่วงลงจากฟ้าในสักวัน เหมือนชีวิตของท่านจอมพล ป.พิบูลสงครามผู้ทรงอิทธิพลและยิ่งใหญ่ของประเทศไทย ในบั้นปลายแห่งชีวิตของท่าน ยังต้องล่องเรือจากญี่ปุ่น นั่งภาวนากลางทะเลด้วยใจหวาดหวั่นไปตลอดทางขอให้ชีวิตของตนแคล้วคลาดปลอดภัย เพื่อให้ได้เข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์และได้อุปสมบทดังที่ใจมุ่งหมายไว้ ณ วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย
ในยามนี้ขอให้ทุกคนจงมั่นคงในพระรัตนตรัย มีพุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติในการประคองใจไว้เสมอ หากเจริญสติหรือทำสมาธิไม่ค่อยได้ ก็จงหมั่นสวดอิติปิโสไว้บ่อยๆ
ในช่วงนี้จงอย่าส่งใจไปในอดีตจนคิดมาก อย่าปล่อยให้จิตใจล่องลอยเต็มไปด้วยการคาดหวังและการรอคอย บางคนแต่ก่อนอาจเคยกินข้าวมื้อละเป็นร้อย ในยามนี้หันมาคลุกน้ำปลาหรือกินบะหมี่ก็ทำให้อิ่มท้องและอร่อยดีเหมือนกัน
จนภายนอกหรือจนเงินก็ช่างเถอะ แต่เราจะไม่จนใจและจนบุญกุศล ชีวิตนี้ขอเดินตามรอยพระอริยเจ้าทั้งหลายที่อัฐิของท่านได้กลายเป็นพระธาตุ แม้จะจนสักเพียงใดก็ตาม
คุรุอตีศะ
๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘
