ปรารภธรรม : ก็เพียงแค่อยู่ไป

ก็เพียงแค่อยู่ไป

 

 

                    รักษาใจของเราไว้  อย่าวิตกต่ออนาคตวันข้างหน้าจนเกินไป ก็เพียงอยู่ไปแต่ละวัน เพียงเท่านั้นก็พอแล้ว

 

                    ชีวิตไม่ใช่การมีแต่สิ่งที่เบิกบาน  ความหดหู่เหงาหงอยก็คือชีวิตด้วย  จงต้อนรับมันด้วยหัวใจซื่อๆ ไม่ผลักต้าน  การปฏิเสธและการผลักต้านต่อสิ่งใดก็ตาม  ล้วนเป็นสาเหตุแห่งความเคร่งเครียดและความวิตกกังวลตามมา

 

                   ต้นไม้ที่เคยมีใบเขียวขจี  แต่บัดนี้ใบเหลืองและใบแก่กำลังร่วงหล่น   ต้นไม้ยังรู้จักปรับตัวให้สอดคล้องกับฤดูกาลด้วยความใจเย็นและอดทน  ขึ้นชื่อว่าชีวิตของคน  ก็ต้องได้เผชิญทั้งความสุขและความทุกข์ที่ทยอยมาเยี่ยมเยือนตามกาลเวลาเช่นเดียวกับพฤกษา

 

                    ยามหม่นหมองจงร้องไห้และสะอื้นเสียจนให้อิ่ม  ต่อจากนั้นจะได้กลายเป็นรอยยิ้มและหัวใจจะเกิดการปล่อยวางความทุกข์ลงเสียได้

 

                    ชีวิตไม่เห็นต้องมีแต่ความเอิบอิ่มและความสดชื่นเสมอไป  แม้ในยามหม่นหมอง หดหู่ หรือสะเทือนอารมณ์จนต้องร้องไห้  นั่นก็คือความกล้าหาญอย่างหนึ่งที่ชีวิตนี้ได้มีโอกาสเผชิญกับความเป็นจริง

 

                    อย่าเอาชีวิตของเราไปขึ้นกับวันพรุ่งนี้  แต่จงอยู่กับวันนี้และขณะนี้ด้วยการตระหนักรู้และรู้สึกตัวอย่างเต็มที่  นั่นคือความงดงามแห่งชีวิตของเราทั้งหมด

 

                    ชีวิตที่แท้จริง  ไม่ใช่อดีตแห่งวันวาน  ไม่ใช่ทั้งความฝันหวานไขว่คว้าต่ออนาคต แต่คือความเป็นทั้งหมดกับปัจจุบันขณะนี้  นี้ต่างหากคือชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์ของเรา

 

                   ก็เพียงแค่อยู่ไปด้วยความเคารพต่อลมหายใจเข้าออกที่ยังมีอยู่  เพียงแค่อยู่ไปแต่ละขณะด้วยความรู้สึกตัวเท่านั้น    พลังแห่งชีวิตที่เสื่อมถอยไปก็เริ่มฟื้นคืนกลับมาแล้ว

 

                    เรื่องราวและเหตุการณ์อะไรที่สับสนวุ่นวายหัวใจเกินไปนัก  จงกล้าที่จะยอมหยุดพักเพื่อตั้งหลักให้มั่นคงเสียก่อน  จึงตัดสินใจเดินต่อไป

 

                    อยู่ไปเรื่อยๆ โดยไม่คาดหวังสิ่งใดให้หัวใจต้องมีภาระ  ตั้งแต่เกิดมาหัวใจนี้ก็เต็มไปด้วยภาระอันมากมายจนเกินพออยู่แล้ว จึงควรให้หัวใจดวงนี้ได้มีเวลาหยุดพักบ้าง

 

                    ก็เพียงอยู่กับวันนี้ไม่เลือกว่าจะสุขใจหรือทุกข์ใจ  อยู่กับทุกขณะนี้เรื่อยไป  ไม่ว่าจะหัวใจในตอนนี้จะหวาดหวั่นสั่นไหวหรือมีความมั่นใจในตัวเอง

 

                    เพียงกล้าอยู่กับวันนี้โดยไม่ใส่ใจว่าวันพรุ่งนี้ชีวิตจะเจออะไร  กล้าที่จะมีชีวิตอยู่โดยไม่เรียกร้องความมั่นคงใดๆ นั่นคือความกล้าหาญอันยิ่งใหญ่  ที่จะกล้าคารวะแม้แต่ตัวเอง

 

                    หัวใจเช่นนี้คือผู้มีชีวิตอยู่ในแต่ละวันด้วยวิถีแห่งสมาธิภาวนา เป็นการภาวนาที่กลายเป็นหนึ่งเดียวกับชีวิตตลอดเวลา  เป็นภาวนาที่ไม่ต้องอาศัยกฎเกณฑ์หรือรูปแบบใดๆอีก

 


อาศรมคนเมิน
  ๒๗ ม.ค. ๕๘  ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๓