ก่อนจะเป็นศรีลังกา

 

ก่อนจะเป็นศรีลังกา

 

                    วันนี้อากาศหนาวต้อนรับตรุษจีน อยากเล่าประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในศรีลังกาให้ทุกคนฟัง เพื่อประกอบความเข้าใจว่า เหตุใดชาวศรีลังกาจึงศรัทธาในศาสนาและหวงแหนพระพุทธศาสนามากกว่าคนไทยมากจนเรารู้สึกแปลกใจ เรื่องนี้มีเบื้องหลังคือ

 

                   ประมาณ พ.ศ. ๒๐๕๐ ช่วงที่มีการต่อสู้แข่งอำนาจระหว่างคนสองเผ่าและลังกาอ่อนแอลง โปรตุเกสก็เข้ามารุกรานซ้ำเติม ชนชาติโปรตุเกสเข้ามาค้าขาย พร้อมกับแสวงหาผลประโยชน์จากความขัดแย้งระหว่างชนสองเผ่านั้น โปรตุเกสเข้าครอบครองดินแดนบางส่วนไว้ได้ และพยายามบีบบังคับประชาชนที่อยู่ภายใต้การยึดครองให้เปลี่ยนไปนับถือคริสต์ศาสนา นิกายโรมันคาทอลิก ช่วงหนึ่งถึงกับสามารถยึดอำนาจกษัตริย์ของลังกาไว้ได้ ทำให้สถานการณ์พระพุทธศาสนาได้เสื่อมโทรมลง เกาะลังกาแทบหาพระภิกษุไม่ได้ ถึงกับต้องนิมนต์พระสงฆ์จากพม่า มาประกอบพิธีอุปสมบทให้แก่กุลบุตร

 

                   ในระยะนี้ชาวฮอลันดา ได้มาทำการค้าขายมีอำนาจมากขึ้นในดินแดนแถบนี้ ลังกาจึงต้อนรับชาวฮอลันดาเพื่อให้เข้ามาช่วยขับไล่โปรตุเกสจนสำเร็จในปี พ.ศ. ๒๒๐๐

 

                  แต่แล้วหลังจากฮอลันดาครอบครองดินแดนส่วนที่ยึดไว้ได้แทนที่โปรตุเกส ฮอลันดาก็พยายามประดิษฐานคริสต์ศาสนา นิกายโปรเตสแตนท์ และพยายามห้ามกีดกันพระพุทธศาสนาทุกวิถีทาง แต่ไม่สำเร็จ ในช่วงนั้นพระภิกษุไม่เหลืออยู่เลยในเกาะลังกา สามเณร "สรณังกร" ต้องรอจนอายุได้ ๕๒ ปี จึงมีโอกาสได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ

 

                    ในปี พ.ศ. ๒๒๙๔ ท่านสรณังกรได้ถวายคำแนะนำแด่กษัตริย์ให้ส่งคณะทูตมายังสยามหรือประเทศไทย ในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เพื่อขอพระภิกษุจำนวน ๑๐ รูป มีพระอุบาลีเป็นหัวหน้า ไปประกอบพิธีอุปสมบท ณ เมืองแคนดี ซึงมีผู้เข้ารับการอุปสมบทในครั้งนั้นถึงสามพันคน พระสรณังกรก็ได้รับการอุปสมบทในโอกาสนี้ ต่อมาท่านได้รับการสถาปนาจากพระมหากษัตริย์ให้เป็นสมเด็จพระสังฆราช เป็นการประดิษฐานคณะสงฆ์ นิกายสยามวงศ์ หรืออุบาลีวงศ์ หรือสยามนิกายในลังกาทวีปนับแต่นั้นมา

 

                   ประเทศศรีลังกาได้ผ่านความทุกข์ยากจากการเบียดเบียนของต่างชาติมาก ต่อมา พ.ศ. ๒๓๖๒ อังกฤษได้เข้ามาครอบครองศรีลังกา ได้ดัดแปลงข้อความในสนธิสัญญาเสียใหม่ อันมีผลทำให้ราชวงศ์กษัตริย์ของลังกาได้ถึงกาลอวสานลง

 

                    รัฐบาลถูกบีบจากคริสต์ศาสนาให้ยกเลิกความเกี่ยวข้องทุกอย่างในกิจการของพระพุทธศาสนา บาทหลวงได้ดำเนินการเผยแผ่ศาสนาของตนและต่อต้านพระพุทธศาสนาเป็นการใหญ่ ถึงกับรุกรานโจมตีพระพุทธศาสนาอย่างเปิดเผยในที่สาธาณะ

 

                   นับว่าพระพุทธศาสนาได้รับภัยอันตรายอย่างมากจากขบวนการต่อต้านและทำลายพระพุทธศาสนาที่รัฐบาลต่างชาติให้การสนับสนุน เป็นเวลากว่า ๓๐๐ ปี ข้อนี้จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชาวศรีลังกาดิ้นรนต่อสู้แสวงหาอิสรภาพ เพื่อนำศาสนาประจำชาติของตนกลับคืนมา จนกระทั่งศรีลังกาได้รับเอกราชจากอังกฤษ ในปี พ.ศ. ๒๔๙๑ จึงเริ่มเป็นตัวของตัวเองขึ้นแล้วเริ่มกอบกู้ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา

 

                   การที่ประเทศศรีลังกาต้องผ่านความทุกข์ยากถึงขั้นที่พระพุทธศาสนาเกือบจะสูญสิ้นไปจากเกาะลังกา ต้องทนต่อแรงบีบคั้นและการโจมตีเบียดเบียนจากผู้เป็นปฏิปักษ์ต่อพระพุทธศาสนา ได้ก่อให้เกิดปฏิกิริยา กระตุ้นเตือนให้เกิดการฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ทำให้เกิดความเข้มแข็ง กระตือรือร้น เอาจริงเอาจังในการคุ้มครองรักษาพระพุทธศาสนาอย่างที่ชาวโลกมองเห็นอยู่ทุกวันนี้

                    (ข้อมูลส่วนใหญ่อ้างอิงจากหนังสือ "พระพุทธศาสนาในอาเซีย" โดยพระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)

 

                    จะเห็นได้ว่า คนเราจะมองเห็นคุณค่าและเห็นความสำคัญในสิ่งใด ต้องเกือบสูญเสียสิ่งนั้นไปหรือต้องต่อสู้เพื่อรักษาสิ่งนั้นไว้ด้วยความทุกข์ยาก เราจึงควรช่วยกันดำรงพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนนาน หลวงพ่อเคยอ่านเรื่องอย่างนี้มานานกว่า ๓๐ ปีแล้ว จึงอยากให้ทุกคนได้ทราบไว้ จะเป็นอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่ติดตามตนต่อไป แม้จะประสบมรสุมของชีวิตสักเพียงใด ก็จะทำให้ชีวิตไม่มีทางตกต่ำอีกเลยตลอดชีวิต (จากเพจชุมชนคนรักเกพลิตาและเพจเกพลิตาโพธิวิหาร)

 

                                                                                         คุรุอตีศะ

                                                                                   ๖  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๙