บอกเล่าเรื่องพระหยก ๓๐ นิ้ว

วัดท่าสว่างประมาณกลางเดือนธันวาคม ๒๕๕๓  หลังจากที่หลวงพ่อพระมหาภาวศุทธิ์  เทวธัมโม ได้อัญเชิญหลวงพ่อพระโลกธาตุหยกขาวมาประดิษฐานที่เกพลิตาโพธิวิหารแล้ว  สมโภชองค์พระแล้ว ภาพหลวงพ่อพระโลกธาตุหยกขาวได้เผยแพร่ทางเว็บไซด์  วัดท่าสว่าง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้เห็นพระหยกขาวจากเว็บไซด์ โทรมาสอบถามที่เกพลิตาโพธิวิหาร (ฝ่าซือวรนิฏฐิตาเป็นคนรับโทรศัพท์) ว่าได้มาจากไหน อย่างไร  และสุดท้ายถามว่าทางมูลนิธิ (มูลนิธิศาสนธรรม) มีโครงการที่จะสร้างพระหยกไปไว้ในถิ่นทุรกันดารบ้างไหม อยากได้ไปไว้ในพระอุโบสถ ที่วัดมีพระอุโบสถสวย  เมื่อคุยกันมาถึงตรงนี้แล้ว (โดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และก็ไม่รู้ว่าใครกำลังคุยอยู่กับใคร) แต่ความรู้สึกเป็นบุญเกิดขึ้นว่า ดีใจจริงๆ ที่คนเห็นพระหยกแล้วชื่นชม และอยากได้ แล้วก็จะได้ประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ ฝ่าซือจึงบอกว่าขอบคุณและอนุโมทนาที่บอกข่าวดีนี้ ต้องกราบเรียนหลวงพ่อพระมหาภาวศุทธิ์ก่อนว่าท่านจะเห็นสมควรอย่างไร หรือไม่ และจึงได้สอบถามว่าโยมชื่ออะไร จะเอาไปไว้ที่วัดไหน  เขาก็บอกว่า ชื่อฉัตรมงคล เป็นกรรมการวัดท่าสว่าง  อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ท่านเจ้าอาวาสชื่อพระครูสุขุมธรรมภาณ อยากได้องค์พระขนาดหน้าตักประมาณ ๒๐ นิ้ว หรือ ๓๐ นิ้วก็ได้ ปางไหนก็ได้วัดท่าสว่าง

หลังจากนั้นฝ่าซือวรนิฏฐิตาได้กราบเรียนหลวงพ่อพระมหาภาวศุทธิ์  ท่านก็รับปากทันทีว่าเอาเลย เอาหน้าตัก ๓๐ นิ้ว รีบโทรบอกเขาเดี๋ยวนี้ ฝ่าซือก็โทรกลับไปแจ้งว่า หลวงพ่อพระมหาภาวศุทธิ์  ยินดีเป็นเจ้าภาพสร้างให้ เมื่อทราบว่าสร้างเมื่อไร ที่ไหน อย่างไรแล้วจะประสานมา หากมีโอกาส หลังปีใหม่จะไปเยี่ยมที่วัด หลังจากรับเป็นเจ้าสร้างพระแล้ว หลวงพ่อได้ประกาศให้ญาติโยมได้ร่วมทำบุญ  และได้ติดประกาศบอกบุญจริงจังเมื่องานแกะสลักเริ่มต้นแล้ว

วัดท่าสว่าง

เริ่มแรกหลวงพ่อให้ติดต่อดูทางเชียงรายว่าเราสามารถสั่งแกะสลักแถวแม่สายได้ไหม จะได้ไม่ยุ่งยากเรื่องการขนส่ง ยังไม่ทันจะรู้เรื่อง  พอดีทางพม่า(คุณวิไล)โทรมาบอกว่า  คนที่แกะสลักหลวงพ่อพระโลกธาตุหยกขาว อยากจะได้ภาพองค์หลวงพ่อที่ประดิษฐานเรียบร้อยแล้วที่เมืองไทยเพื่อเอาไปติดโชว์ไว้ที่ร้านของเขา  จึงได้พูดคุยสอบถามว่าจะสั่งอีกองค์หนึ่งขนาดหน้าตัก ๓๐ นิ้ว แบบเดียวกับองค์ใหญ่   คุณวิไลรับปากจะถามให้  เมื่อกราบเรียนหลวงพ่อ  ท่านก็บอกว่า ไหนๆ จะสร้างแล้ว  ก็สั่งที่เดิมดีแล้ว เมื่อทางวัดไม่ได้กำหนดรูปแบบมา ก็สร้างแบบเดียวกันกับของเรานี่แหละ ไม่ต้องยุ่งยากหาเลือกแบบไปสั่งแกะ เขาเคยแกะให้เราอยู่แล้วงานของเขาก็จะง่ายขึ้น  จึงได้ตกลงสั่งแกะสลักเป็นปางเดียวกันกับหลวงพ่อพระโลกธาตุ หลวงพ่อให้เริ่มงานแกะสลักเมื่อวันตรุษจีนที่ ๒ กุมภาพันธ์  ๒๕๕๓ โดยให้คุณวิไลเป็นคนทำสัญญาสั่งจองกับทางร้านแกะสลัก

เมื่อเริ่มงานแกะสลักองค์พระหยกขาวหน้าตัก ๓๐ นิ้วแล้วจึงได้โทรศัพท์แจ้งไปทางวัดท่าสว่าง (ซึ่งไม่ได้มีการติดต่อกันอีกหลังจากการรับปากเป็นเจ้าภาพ และทางวัดอาจคิดว่าเป็นไปไม่ได้แล้ว) ว่าการแกะสลักองค์พระได้เริ่มแล้วที่เมืองมัณฑเลย์  การประสานงานกับทางวัดท่าสว่างนั้นผ่านกรรมการวัดชื่อฉัตรมงคลเท่านั้น  จากนั้น หลวงพระมหาภาวศุทธิ์ได้ให้ฝ่าซือวรนิฏฐิตาเขียนจดหมายกราบเรียบท่านพระครูสุขุมธรรมภาณ  เจ้าอาวาสวัดท่าสว่าง ซึ่งไม่เคยได้รู้จักกันมาก่อน  เพียงรับทราบจากคุณฉัตรมงคลว่า วัดท่าสว่าง อำเภอกันทรลักษ์ ใกล้เขาพระวิหาร และเมื่อมีเหตุการณ์ไม่สงบที่ชายแดน (เขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ) วัดท่าสว่างก็เป็นศูนย์อพยพชั่วคราวที่ชาวบ้านหนีกระสุนปืนมาพึ่งพิงแห่งหนึ่งด้วย

วัดท่าสว่าง

จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๔ ฝ่าซือวรนิฏฐิตาจึงได้มีโอกาสไปเยี่ยมที่วัดท่าสว่าง โดยได้พบกับท่านรองเจ้าอาวาส และกรรมการวัดชื่อฉัตรมงคลผู้ประสานงานตลอดมา จึงได้ทราบว่าพระอุโบสถวัดท่าสว่างสวยงามจริงๆ ได้ยินว่าใช้เวลาก่อสร้างนานถึง ๑๙ ปีจึงได้พระอุโบสถที่สวยงามอย่างนั้น  มีศาลาใหญ่อีก ๒ หลังที่กำลังเริ่มสร้างซึ่งมีแต่ฐานล่างและเสา นอกนั้นก็มีกุฏิพระซึ่งเป็นตึกใหญ่สำหรับเจ้าอาวาส และกุฎิพระอีกประมาณ ๓-๔ หลัง มีพระประจำอยู่ ๕ รูป  ถนนลาดยางเข้าถึงวัด ไม่กันดารนัก ที่วัดมีศูนย์เลี้ยงเด็กก่อนเกณฑ์มีเด็กประมาณ ๓๐ คน ซึ่งอบต.โนนสำราญ ดูแลอยู่รุ่งขึ้น วันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๔ ได้รับแจ้งจากทางพม่าว่า องค์พระเสร็จร้อยแล้ว พร้อมที่จะขนส่ง  


หมายเหตุ  ท่านที่ประสงค์จะร่วมทำบุญสร้างพระยังสามารถร่วมบุญได้อีกจนกว่าองค์พระจะเดินทางมาถึงเกพลิตาโพธิวิหาร

 

เกพลิตาโพธิวิหาร

๑๖  มีนาคม ๒๕๕๔