กิจกรรมและความเป็นไปในปี ๒๕๕๖
- รายละเอียด
- หมวด: Activity
กิจกรรมภายในเกพลิตา ที่มีมาอย่างสม่ำเสมอและเป็นมาตรฐานคือความสงบและความร่มเย็น นี้คือกิจกรรมสำคัญที่สุดที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อคุรุอตีศะเน้นย้ำต่อศิษย์ตลอดเวลา ส่วนกิจกรรมภายนอกหรือการสร้างวัตถุในภายนอกนั้น ให้เป็นเรื่องรองลงไปตามเหตุปัจจัยที่จะมีผู้ใจบุญมาสร้างมาบริจาค หากมีผู้มีจิตศรัทธาและต้องการสร้างบุญบารมี ต้องการความอิ่มใจจากการได้ประกอบการบุญการกุศล ปรารถนาจะเสียสละทรัพย์ในภายนอกเพื่อแลกเอาอริยทรัพย์ในภายใน ต้องการจะสร้างสรรค์สิ่งใด ก็สามารถทำได้ตามกำลังทรัพย์และตามกำลังศรัทธาของตน นี้คือหลักและแนวทางที่หลวงพ่อให้ศิษย์ทุกคนยึดถือปฏิบัติ
แต่ถึงแม้หลวงพ่อจะเน้นย้ำกิจกรรมภายในคือความสงบ ความร่มเย็น ว่ามีความสำคัญกว่ากิจกรรมในภายนอกก็ตาม แต่ก็มีผู้ใจบุญใจกุศลช่วยกันสร้างสรรค์กิจกรรมในภายนอกหลายสิ่งหลายอย่างด้วยความอิ่มอกอิ่มใจอยู่ไม่น้อย โดยในปี ๒๕๕๖ นี้ มีอยู่หลายกิจกรรมที่”หิ่งห้อย”อยากนำมาเล่าสู่กันฟัง.....
งานปฏิบัติธรรมเทศกาลวันมาฆบูชา
ช่วงเวลาระหว่างวันที่ ๒๒ – ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ เกพลิตาโพธิวิหารได้จัดให้มีการปฏิบัติธรรมสำหรับประชาชนโดยทั่วไป เพื่อแสดงออกถึงความเลื่อมใสศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา อันเป็นวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงพระปาฎิโมกข์แก่พระอรหันต์จำนวน ๑,๒๕๐ องค์ ที่เป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทาคือพระองค์ทรงบวชให้เอง ที่มาประชุมกันในวันเพ็ญเดือนสามโดยมิได้มีการนัดหมาย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ ครั้งสำคัญหลังจากพระองค์ตรัสรู้ได้เพียง ๙ เดือน ทำให้พระองค์ได้โอกาสในการวางหลักการและวิธีการเผยแผ่พระศาสนาแก่เหล่าพระสาวกเป็นครั้งแรก
![]() |
การมาปฏิบัติธรรมด้วยความสมัครใจโดยไม่ได้มีการชักชวนหรือขึ้นป้ายประกาศ แต่แม้กระนั้นก็ยังมีผู้มีใจศรัทธามารักษาศีล ๘ อยู่ปฏิบัติธรรม ณ เกพลิตาโพธิวิหาร เป็นจำนวนถึง ๖๐ คนเศษ
ในคืนวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ อันเป็นวันเพ็ญมาฆบูชา ทุกคนได้ร่วมกันทำวัตรเย็นที่ศาลาพุทธศรีอาริยะเมตไตรย ด้านพระพักตร์ขององค์หลวงพ่อหยกขาว ในเวลา ๑๘.๐๐ น. หลังจากนั้นทุกคนได้มีโอกาสฟังพระธรรมเทศนาจากหลวงพ่อคุรุอตีศะในเวลา ๑๙.๐๐ น. และพากันทำประทักษิณเวียนเทียนรอบฐานด้านล่างหลวงพ่อหยกขาวด้วยความชุ่มชื่นใจในบุญที่เกิดด้วยพลังศรัทธาของตนเองที่มีต่อพระรัตนตรัย โดยมีคนมาเวียนเทียนประมาณ ๔๐๐ คน
การสร้างสระมุจลินท์หน้าพระพักตร์องค์หลวงพ่อหยกขาว
หลวงพ่อคุรุอตีศะได้ปรารภมาตั้งแต่ปีที่แล้วว่า อยากทำสระด้านหน้าพระพักตร์ขององค์หลวงพ่อหยกขาวขึ้นใหม่ เนื่องจากสระเดิมที่สร้างมาตั้งแต่วันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เกิดการชำรุดและไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ จนกระทั่งหลวงพ่อได้ปรารภขึ้นอีกครั้งในงานปฏิบัติธรรมระหว่างวันที่ ๑๕ – ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๖ ว่า อยากให้มีสระมุจลินท์ก่อนถึงวันสงกรานต์ เพราะถ้าสร้างสระสำเร็จฝนจะได้ไม่แล้งอีกต่อไป
หลังจากงานปฏิบัติธรรมจบสิ้นลง สุภาพสตรีท่านหนึ่งซึ่งได้มาปฏิบัติธรรมได้ติดต่อมาทางผู้ประสานงานของเกพลิตาว่า “มีนิมิตสิ่งศักดิ์สิทธิ์บางอย่างไปบอกให้เธอมาสร้างสระ และจะขอรับเป็นเจ้าภาพหลักในการสร้างสระมุจลินท์” แต่เนื่องจากต้องใช้ทุนทรัพย์จำนวนมากจึงต้องมีการบอกบุญในหมู่คนใกล้ชิดที่มีศรัทธาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ที่ปรารถนาจะให้การก่อสร้างสระมุจลินท์สำเร็จก่อนถึงวันสงกรานต์ให้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ
เมื่อการสร้างสระเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ก็มีผู้ที่มีสายตาอันแหลมคมเริ่มมีการปรึกษาหารือกันว่า การสร้างสระเพียงอย่างเดียวย่อมไม่เพียงพอ ต้องมีสวนหย่อมและพื้นสนามหญ้ารอบสระด้วย จึงจะเกิดความสวยงามและสดชื่นแก่ผู้มาเยือน สมควรที่พวกเราจะช่วยกันสร้างสวนดอกไม้และสวนหย่อมขึ้น บริเวณนี้จึงจะมีความสมบูรณ์และเป็นศรีสง่าสมกับบารมีขององค์หลวงพ่อหยกขาว
ด้วยเหตุนี้เอง เจ้าภาพในการสร้างสวนหย่อม เจ้าภาพสร้างสนามหญ้าทั้งรอบสระและรอบหลวงพ่อหยกขาว จึงเกิดขึ้นตามหลังการสร้างสระ แล้วได้เกิดภูมิทัศน์ที่งดงามดังที่ปรากฏแก่สายตาของทุกท่าน
และในที่สุดทั้งสระทั้งสวนหย่อมก็เสร็จทันสงกรานต์ด้วยความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคต่างๆของทุกฝ่าย และเมื่อทำพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระยานาคราชมุจลินท์ตามธรรมเนียมโบราณ ฝนก็เริ่มตกลงมา หลังจากไม่เคยตกเลยตลอดระยะเวลา ๕ เดือนเศษ และนับแต่นั้นบริเวณนี้ก็ไม่เคยแห้งแล้งอีกเลย
งานปฏิบัติธรรมต้อนรับสงกรานต์
เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนที่ไม่ต้องการไปเที่ยวเตร่หรือไปฉลองสงกรานต์แบบสนุกสนานเหมือนคนทั่วไป แต่ต้องการมาปฏิบัติธรรม หาความสงบและทบทวนชีวิตตนเอง ปรารถนารับเอากระแสธรรมเพื่อเริ่มชีวิตใหม่ในปีใหม่ของไทย เพื่อความเป็นสิริมงคล ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เกพลิตาโพธิวิหารจึงเปิดโอกาสให้ทุกคนมารักษาศีล ฟังธรรม และปฏิบัติธรรม ในระหว่างวันที่ ๑๒ – ๑๕ เมษายน ๒๕๕๖
งานสักการะขอพรหลวงพ่อหยกขาวประจำปี
นับเป็นปีที่ ๒ ที่มีการจัดงานสักการะขอพรหลวงพ่อหยกขาว ซึ่งกำหนดเอาช่วงวันวิสาขบูชาระหว่างวันที่ ๒๐ – ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เป็นงานสักการะขอพรหลวงพ่อหยกขาวประจำปี ปีนี้มีความสะดวกขึ้นเพราะมีศาลาพระศรีอาริยะเมตไตรย มีสระมุจลินท์ มีสวนหย่อม มีความเรียบร้อยของการตกแต่งสถานที่ มีความงดงามของการจัดดอกไม้ที่ทำด้วยศรัทธายอมอดหลับอดนอนกันทั้งคืน ช่วยกันคนละไม้คนละมือด้วยความเต็มใจและร่าเริงในบุญ แม้จะอดนอนและเหน็ดเหนื่อย แต่ทุกคนก็รื่นเริงมีปีติที่ได้กระทำอามิสบูชาอย่างสุดกำลัง ได้ทั้งการปฏิบัติธรรม ได้ฟังธรรม ได้ลดตัวลดตน กวาดใบไม้ เก็บขยะ ทำครัว ล้างห้องน้ำ เสียสละทำกิจกรรมด้วยใจสมัครและมีความสุขกันถ้วนหน้า เรียกได้ว่า วิสาขบูชาปีนี้ ผู้มาปฏิบัติธรรม ได้ทั้งการปฏิบัติบูชา และอามิสบูชา ครบถ้วนสมบูรณ์ กลับไปทำงานด้วยความอิ่มบุญและอิ่มอกอิ่มใจกันทุกคน
คืนวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๖ อันเป็นคืนวันเพ็ญวิสาขบูชา ก่อนหลวงพ่อขึ้นธรรมาสน์แสดงธรรม ได้เกิดปรากฏการณ์พระจันทร์ทรงกลดที่เป็นสีรุ้งสวยงามชัดเจน ปรากฏแก่สายตาของทุกคน และเกิดการทรงกลดอย่างนั้นไปตลอดที่มีการเวียนเทียนและจนเสร็จสิ้นพิธี ณ มณฑลหลวงพ่อหยกขาว ปีนี้มีคนมาร่วมพิธีเวียนเทียนจำนวนมาก ประมาณไม่ต่ำ ๕๐๐ คน แม้ทุกคนจะเดินย่ำโคลนบ้างแต่ก็อิ่มใจในบุญ
สุดท้ายหลังจากเวียนเทียนเสร็จแล้ว มีการปล่อยโคมเป็นพุทธบูชาและเหมือนเป็นการสะเดาะเคราะห์ไปในตัว จำนวน ๑๙๙ ดวง เมื่อดวงโคมอันรุ่งเรืองลอยขึ้นสู่นภากาศ เหมือนกับการได้ชีวิตใหม่และได้ความสดใสเบิกบานมาสู่ชีวิตของเรา โคมได้ลอยตามกันไปในทิศทางเดียวกันและไปตกในบริเวณสถานที่แห่งเดียวกันเป็นที่อัศจรรย์
รอยเท้าปริศนา
ในวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ได้ปรากฏรอยเท้าปริศนาจำนวน ๙ รอยขึ้นบริเวณสนามหญ้าซึ่งเพิ่งปูหญ้าเสร็จใหม่ๆ ด้านหน้าเยื้องพระหัตถ์ขวาขององค์หลวงพ่อหยกขาว เป็นรอยเท้าที่ใหญ่กว่าคนทั่วไป ประทับเป็นรอยไว้บนพื้นหญ้าอย่างเด่นชัด เกิดขึ้นในตอนกลางคืนแล้วมีผู้พบเห็นในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น
ปฏิบัติธรรมวันอาสาฬหบูชา
ในระหว่างวันที่ ๒๑ – ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖ มีการปฏิบัติธรรมที่ไม่ได้มีการโฆษณาและติดป้ายประกาศ แต่ทุกคนที่มา ต่างก็มาด้วยใจและมีศรัทธาเป็นส่วนตัวที่ปรารถนาจะมาฟังธรรมและพักผ่อนจิตใจ อยู่กับความสงบตามธรรมชาติ โดยไม่เคร่งเครียด แต่เคร่งครัดด้วยการมีสติรู้กาย รู้ใจอยู่เสมอไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน กลางคืนมีการเวียนเทียน กระทำประทักษิณรอบองค์หลวงพ่อหยกขาว มีคนมาประมาณ ๓๐๐ คน
การบวงสรวงครบรอบ ๓ ปีหลวงพ่อหยกขาว
ก่อนเข้าพรรษาหลวงพ่อปรารภว่า พรรษานี้หลวงพ่อจะงดแสดงธรรมและงดกิจกรรมต่างๆ เพราะสิ่งที่หลวงพ่อได้อธิษฐานไว้คือ การหมดหนี้สินจากการสร้างหลวงพ่อหยกขาว การพัฒนารอบฐานพระ และการสร้างสระมุจลินท์ ได้สำเร็จลุล่วงตามความประสงค์แล้ว จึงประสงค์จะหยุดพักทุกสิ่งทุกอย่างตลอดพรรษานี้
แต่เพื่อไม่ให้ผู้ที่มีความตั้งใจเกิดความรู้สึกว้าเหว่ห่างเหินจากเกพลิตาจนเกินไป หลวงพ่อจึงเมตตากำหนดให้ ระหว่างวันที่ ๗ – ๙ กันยายน ๒๕๕๖ เป็นวันทบทวนตนเอง เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนมาฟังธรรมและปฏิบัติธรรมได้ ส่วนวันเวลานอกจากนั้นหลวงพ่องดรับแขก งดการติดต่อกับคนทั่วไป งดลงแสดงธรรมทุกอย่าง
และเนื่องจากปีนี้ครบเวลา ๓ ปี ที่ได้อัญเชิญหลวงพ่อหยกขาวจากประเทศเมียนมาร์มาสู่ประเทศไทยและอัญเชิญขึ้นสู่แท่นประดิษฐานเมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๓ หลวงพ่อจึงมอบหมายให้คณะศิษย์จัดให้มีพิธีบวงสรวงแสดงออกซึ่งพุทธบูชา อันเป็นกิจกรรมเดียวที่มีในพรรษานี้
หิ่งห้อย ณ เกพลิตา